หุ้นกลุ่มโรงแรมที่ลงมาค่อนข้างแรงที่สุดน่าจะเป็น ERW และ CENTEL รวมถึงหุ้น SHR ที่ตั้งแต่ขาย IPO มานั้นก็ไม่เคยขึ้นมาให้เห็นเลย
ครั้งก่อนลองมองงบ ERW กันไปแล้ว งบไม่ได้แย่มี Hop Inn มาช่วย แต่บริษัทก็ยังได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ซบเซาอยู่ดี
แต่สำหรับ CENTEL แล้วผลกระทบค่อนข้างชัดเจนทั้งธุรกิจอาหาร และโรงแรม
สาระสำคัญของผลประกอบการ CENTEL มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาส่องกันสักหน่อยครับ
- สัดส่วนรายได้ยังเหมือนเดิม คือ ธุรกิจโรงแรม 42% ธุรกิจอาหาร 58%
- ผลประกอบการไตรมาส 4 ของปี 2562 เทียบกับปี 2561 ไม่แตกต่างกันมาก รายได้จากธุรกิจโรงแรมลดลง 8.4% ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.7% ทำให้รายได้รวมลดลงประมาณ 2.8% กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย 2%
- ผลประกอบการทั้งปี 2562 ธุรกิจโรงแรมลดลงค่อนข้างมาก 9% ในขณะที่ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น 2.4% ตามสาขาที่เพิ่มมากขึ้น ต้นทุนขายลดลง ค่าใช้จ่ายในการบรีหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- กำไรสุทธิทั้งปีลดลงค่อนข้างมาก 20% จาก 2.17 พันล้านบาทในปี 2561 เหลือเพียง 1.74 พันล้านบาทในปี 2562
- บริษัทชี้แจงว่าสาเหตุที่ธุรกิจโรงแรมรายได้หายไปค่อนข้างมากเนื่องมาจากสถาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและรุนแรง
- อัตราการเข้าพักลดลง ราคาห้องพักเฉลี่ยลดลง ** ตรงนี้ดูไม่ดี
- ถึงแม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงในธุรกิจโรงแรม แต่บริษัทก็ยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีอยู่ที่ 63% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12.3%
.
.
มาดูธุรกิจอาหารกันบ้าง
- รายได้หลักมาจาก 3 แบรนด์หลัก คือ เคเอฟซี อานตี้แอนส์ และมิสเตอร์โดนัท
- ยอดขายต่อสาขาลดลง แต่รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการพยายามขยายสาขา จัดโปรโมชั่น มีการตลาด ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
- บริษัทมีเปิดแบรนด์ใหม่ 3 แบรนด์ คือ ร้านอร่อยดี ร้านสุกี้เฮาส์ และร้านไอศครีม Soft Air แล้วก็มีไปร่วมลงทุนทำร้าน Cafe Amazon ที่เวียดนามด้วย ถือเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศของธูรกิจอาหาร ตรงนี้เป็นสตอรี่ที่น่าสนใจ
- รายได้เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขา 2.4% บริษัทรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี 51% แต่อาจจะคุมค่าใช้จ่ายไม่อยู่ ทำให้ลดลงมาก กำไรสุทธิเหลือเพียง 5%
คร่าวๆก็น่าจะมีประมาณนี้สำหรับผลประกอบการของ CENTEL ที่น่าสนใจ คือ P/E ของหุ้น CENTEL อยู่ที่ประมาณ 14.5 เท่า ถือว่าต่ำสุดในรอบสิบปี
ล่าสุด CENTEL มีการจ่ายปันผล 0.55 บาท ขึ้นเครื่องหมายวันที่ 30 เมษายน ครับ ...
บล. หยวนต้า วิเคราะห์ว่าผลประกอบการของ CENTEL อ่อนแอ แต่ราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายมากแล้ว ผลประกอบการที่ออกมาแย่นำโดยการปิดปรับปรุงโรงแรมระดับแม่เหล็ก 2 แห่ง คือ Centara Grand ที่สมุยและหัวหิน ทำให้รายได้หายไปค่อนข้างมาก นักท่องเที่ยวจีนลดลง และการบริโภคในประเทศทียังไม่ฟื้นตัวเป็นสาเหตุหลัก
สำหรับในปี 2563 มองว่าวิกฤตไวรัส COVID-19 น่าจะยังกดดันผลประกอบการทั้งปีอย่างต่อเนื่อง และจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในปี 2564
มองว่าระดับราคาหุ้นตรงจุดนี้ถูกเกินไป แต่ความเสี่ยงที่ต้องตระหนัก คือ เชื้อไวรัส อาจจะยืดเยื้อออกไป
ใครที่ถือหุ้น CENTEL อยู่ ตรงนี้ราคาหุ้นถือว่าถูกพอสมควร แต่ด้วยความถูกของมันก็เต็มไปด้วยความกังวลและความไม่แน่นอนมากมาย ใครที่สนใจจะต้องกลับไปทำการบ้านกันต่อแล้วครับว่า หุ้น CENTEL ตรงระดับราคานี้มีความคุ้มค่ามากแค่ไหน ...
=======================
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.set.or.th/dat/news/202002/20023261.pdf
https://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000382728/CENTEL_Company%20Update_020320.pdf