เรียกได้ว่าเจ็บกันไปตามๆกันสำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม ที่ดูเหมือนว่าจะรับข่าวร้ายแงบลบไปเยอะมาก และ ERW ก็เป็นหุ้นหนึ่งในนั้นที่จากระดับราคาสูงถึง 9 บาท ไหลลงมาเรื่อยๆจนแตะระดับ 3.9 บาท ทำ New low อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลประกอบการไม่ได้แย่มาก ออกจะตอบรับข่าวร้ายไปมากด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ผลประกอบการออกมาแล้ว มาดูผลประกอบการแบบเร็วๆว่า มีสาระสำคัญ หรือประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ
1. ผลประกอบการไตรมาส 4/61 และ 4/62 ใกล้เคียงกันมาก
2. เทียบปีต่อปี รายได้ค่อนข้างนิ่ง กำไรสุทธิเติบโตลดลง 17% ... ตรงนี้ดูไม่ดีเท่าไร
3. ลองเจาะดู รายได้ต่อห้องพักลดลง อัตราการเข้าพักลดลง กระทบทุกกลุ่มโรงแรมโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ยกเว้น ฮ็อป อินน์ ที่มีกลุ่มลูกค้าในประเทศไม่ได้รับผลกระทบ
4. ฮ็อป อินน์ในประเทศไทย รายได้เติบโต 24% เมื่อเทียบเป็นไตรมาส แต่ถ้าเต็มปีจะโตประมาณ 14%
5. ฮ็อป อินน์ในฟิลิปินส์ ตอนนี้มี 5 แห่ง มีผู้เข้าพักมากขึ้นเติบโตทั้งโรงแรมเดิมและโรงแรมใหม่ ประมาณ 43%
6. ค่าเสื่อมราคาค่อนข้างกระโดด บริษัทอธิบายว่ามีการเปิดโรงแรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
7. กลุ่มนักท่องเที่ยวภาพรวมเติบโต 6-7% นำโดยชาวอินเดีย จีน และรัสเซีย เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
8. ปัจจุบัน ERW มีโรงแรมทั้งหมด 70 แห่ง จำนวนห้อง 9,569 ห้อง
9. โครงสร้างรายได้ของ ERW
-- แยกตามธุรกิจโรงแรม
- โรงแรม 5 ดาว 45%
- โรงแรมระดับกลาง 24%
- โรงแรมชั้นประหยัด 15%
- โรงแรมฮ็อป อินน์ ประเทศไทย 8%
- โรงแรมฮ็อป อินน์ ฟิลิปปินส์ 4%
- ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ 4%
-- แยกตามพื้นที่
- กรุงเทพ 64%
- พัทยา 14%
- ภูเก็ต 7%
- อื่นๆ 15%
10. บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดฮ็อป อินน์ เพิ่มอีก 7 สาขา ในปี 2563 จะครบ 50 สาขาทั้งไทยและต่างประเทศ
ผลประกอบการคร่าวๆก็จะมีเท่านี้ มาดูว่าโบรคเกอร์มองอย่างไรกันบ้างครับ
บล. หยวนต้า มองว่า กำไรไตรมาส 4/62 ค่อนข้างทรงตัว เติบโตแบบช้าๆ ที่น่ากังวลคือไวรัส COVID-19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรมที่ยาวนาน แต่เหตุการณ์นี้มีโอกาสจะกลับมาฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนราคาหุ้นที่ลงมานั้นมองเป็นโอกาสทยอยสะสม รับรู้ข่าวร้ายไปเยอะและมีความน่าจะเป็นสูงมากที่รัฐบาลจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องของการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับหุ้น ERW แล้วถือว่ารับรุ้ข่าวร้ายไปเยอะพอสมควร จากหลายๆเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเงินบาทแข็งในช่วงต้นปีแรก เหตุการณ์ความไม่สงบของประเทศ และโรคระบาดที่น่าจะกดดันผลประกอบการไปอีกสักระยะ แต่อย่าลืมว่าวิกฤตมีโอกาส หุ้น ERW ถือว่าลงมาค่อนข้างมาก และแบรนด์โรงแรม Hop Inn ถือว่าแข็งแกร่งระดับหนึ่งเลยเป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักไม่แพง และสะดวกสบาย อีกทั้งบริษัทก็ยังเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ครึ่งปีหลังอาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปครับ ...
====================
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.set.or.th/dat/news/202002/20018293.pdf
https://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000382257/ERW_Company_Update_250220.pdf