เรียกได้ว่าเป็นคำถามโลกแตก เพราะทุกคนบนโลกใคตรๆก็อยากรวยเร็ว แต่ถ้าทำเหมือนๆกัน คิดเหมือนๆกัน มันคงจะรวยเร็วพร้อมๆกันทั่วโลก
แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะตลาดหุ้นมีฝั่งนึงได้ และอีกฝั่งนึงต้องเสีย การที่คุณไปทำตามคนส่วนใหญ่ นั้นแปลว่าคุณกำลังอยู่ในฝั่งที่เสียเงิน ...
อย่างไรก็ตาม เราไม่เคยเอาสถิติมาพูด ทุกคนก็เลยเถียงกันไปเถียงกันมาว่า ทำอย่างนั้นสิรวย ทำอย่างนี้สิรวย แล้วจริงๆอย่างกรณีศึกษาที่ยกตัวอย่างมามันเป็นแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เช่น ถ้าเราบอกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือหรอก เพราะคนที่เป็นคนรวยส่วนมากไม่จบปริญญา แต่ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วมันน้อยมากๆ อาจจะมีสัก 1 คน ใน 600 ล้านคนเท่านั้น
ประเด็นเหล่านี้เหมือนยกมาบิดเบือนความจริง แถมเวลาเปรียบเทียบยังชอบเข้าข้างตัวเองอีก เช่น "หุ้น" คนส่วนใหญ่ที่เก็งกำไร Day trade ผมบอกได้เลยว่าส่วนใหญ่ 80% ขาดทุน แต่ทุกคนเล่น Day trade เราจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าคือคนส่วนน้อย เป็นหนึ่งใน 20% ที่กำไร ซึ่งการคิดแบบนี้เป็นการคิดเข้าข้างตัวเอง
หรือเช่น ถ้าบอกว่าถือยาวเป็นวีไอ ทำแล้วรวย ถ้าทำได้จริงแน่นอนว่ารวย แต่ในความเป็นจริงมีน้อยมากๆที่ทำได้จริง มันเลยมีคำว่า "ถ้าทำได้" เพราะเอาเข้าจริงคนส่วนใหญ่กลับทำไม่ได้ เปลี่ยนกลางทาง ทนกำไรที่หายไปไม่ไหว เห็นการขาดทุนไม่ได้ หรือทนรวยไม่ได้เห็นกำไรมันเยอะก็รีบร้อนอยากจะขายรับรู้กำไร
เลยเกิดคำถามในใจว่า "แก่นของ VI" จริงๆแล้วคืออะไร มันคือการหยิบเงินมาก้อนหนึ่ง เอามาลงทุนโดยที่ไม่ได้จะเอามาใช้ แถมไม่สนใจว่ามันจะขึ้นหรือจะลง โดยนัยว่าคุณยอมเสียเงินก้อนนั้นตั้งแต่ต้น
ซึ่งถ้าคิดดีๆ แสดงว่้าแนว VI เป็นวิธีที่เสี่ยงมาก ดังนั้นมันไม่แปลกหรอกครับที่ว่าใครที่สามารถทำตามวิธี VI ได้อย่างถูกต้อง ส่วนใหญ่จะกำไรนั้นก็เพราะเขากล้าที่จะเสียก่อน ตรงนี้คือประเด็นสำคัญ
ดังนั้นถ้าใครพูดว่า "เล่นหุ้นแล้วรวย" หรือ "อยากจะรวยเร็วๆ" มันมีแต่น้อยมาก ต้องใช้ระยะเวลาและ "วิธีคิด"ที่ถูกต้อง ไม่ใช่รวยแบบที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ
เราจะไม่สามารถรวยเร็ว จากการคิดว่าจะรวยเร็ว แต่ถ้าลงทุนอย่างถูกต้องด้วยวิธีคิดที่ถูก ลงทุนอย่างเข้าใจ นี้สิ! ถึงจะมีโอกาสรวยได้จริงๆ