นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก hashtag ดัง #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 ซึ่งนับวันดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนะครับ โดยยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นแล้วก็ตาม...
ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดความกังวล จนเกิดสถานการณ์ panic buy หน้ากากอนามัย หรือเจลล้างมือ จนขาดตลาด ความกังวลต่อสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอีกด้วย และแน่นอนครับ ตลาดหุ้นไทยก็โดนไปด้วยเช่นกัน มาดูกันครับว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ผ่านมากันบ้าง
ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยที่ดูเหมือนจะทะลุแนวต้านของหลายสำนักแถวๆ 1,600 จุด แต่กลับไปต่อไม่ไหวและปรับตัวลงมาเรื่อยๆจากข่าวไวรัสโคโรน่าระบาด
และซ้ำร้ายไปกว่านั้นหลังมีการประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขว่าพบผู้ติดเชื้อที่เป็นคนไทยรายแรกเท่านั้นล่ะครับ ตลาดหุ้นของเราก็ไหลลงจนหลุด 1,500 จุดจนได้ (3 ก.พ. 2563) จนถึงตอนนี้... ไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นก็ยังคงมีทีท่าที่จะแพร่ระบาดในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องนะครับ
หุ้นกลุ่มไหน ที่โคม่า ?
แน่นอนครับ! เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น ธุรกิจกลุ่มการท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน มักจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น AOT MINT ERW ที่ลดลงไปกว่า 10% จากการคาดการณ์ในส่วนของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเข้ามาใช้บริการโรงแรมในประเทศไทยนั้น น่าจะหายไปราวๆ 5 หมื่นล้านบาท (หรืออาจจะมากกว่าน้ัน) และนั่นก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้นักวิเคราะห์ต่างพากันลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรชะลอการลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ไปก่อน
แต่ใครจะรู้ครับว่า... นี่อาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในราคา on sale ก็ได้นะครับ (และอาจจะได้ซื้อในราคา super sale อีกครั้งในช่วงประกาศงบก็เป็นได้ 55)
ขอให้เราหมั่นทำการบ้าน อ่านงบการเงินของบริษัทให้ดี ศึกษาธุรกิจให้ลึกซึ้ง ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะสุดท้ายแล้ว ราคาของหุ้นก็จะกลับมาสะท้อนกับปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงอยู่ดี
“เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส” ยังคงเป็นคำที่ใช้ได้เสมอครับ