น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับมือใหม่ที่ถามกันว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นเป็น "ขาลง" ?

คำตอบนั้นง่ายมากครับ .... ใช้กราฟเทคนิเคิลเข้าช่วย

แต่เครื่องมือของกราฟเทคนิเคิลมีมาก เราควรจะใช้ตัวไหนดี ?

เบสิคที่สุด คือ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Moving Average 200) เรียกสั้นๆว่า MA200 วัน นิยามคืออะไร คำนวนอย่างไร ตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องสนใจมากนั้น เรารู้เพียงแค่ว่า

ถ้ายืนเหนือเส้น คือ หุ้นขาขึ้น
ถ้าเล่นใต้เส้น คือ หุ้นขาลง

ง่ายๆมีเท่านี้ครับ

ถามว่าจำเป็นไหมต้องเป็น 200 วัน คำตอบคือ "ไม่จำเป็น" บางคนอาจจะใช้ 100 วันก็ได้ หรือบางคนอยากได้สัญญาณเร็วหน่อยก็เป็น 50 วัน 20 วัน หรือ 10 วันก็ได้ แต่ยิ่งเร็วเท่าไร ความแม่นยำก็จะยิ่งต่ำ มีการเปลี่ยนแนวโน้มที่เร็วทำให้เราซื้อๆขายๆบ่อย เมื่อซื้อขายบ่อยโอกาสที่จะติดดอย คัตลอส-ขายหมู ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ดังนั้น ใช้เส้น 200 วัน เป็นตัวมองแนวโน้มภาพใหญ่เพื่อใช้กำหนดกลยุทธ์ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ

เราลองมาใช้กับหุ้นไทยดูบ้าง ว่าเป็นอย่างไร

ในกราฟ Day : แท่งเทียนเล่นกันใต้เส้นค่าเฉลี่ย บ่งบอกว่าหุ้นเป็นแนวโน้มขาลง ... แนวโน้มขาลง คือ หุ้นมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น และยิ่งเล่นกันใต้เส้น 200 วัน อาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆเพื่อที่จะดันให้ตัวเองกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง

คร่าวนี้ลองไปดูกราฟ Month ...

แท่งเทียนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย บ่งบอกว่าในกราฟเดือนภาพยังเป็นขาขึ้น แต่ห้ามหลุด 1,200 จุด เพราะถ้าหลุดจะกลายมาเป็นขาลง

ทั้งนี้ กราฟเทคนิเคิลก็อาจจะมีจังหวะผิดพลาดได้เหมือนกัน เช่นครั้งหนึ่งก็เคยหลุดเส้นค่าเฉลี่ยบริเวณ 600 จุด ใช้เวลาพักตัวไม่กี่เดือนก็สามารถวิ่งกลับขึ้นมาได้

ดังนั้นกราฟเทคนิเคิล มีทั้งข้อดี และข้อเสีย บางครั้งก็ให้สัญญาณที่ดี บางครั้งก็ให้สัญญาณที่ผิดพลาด ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ 100% ครับ