#แนวคิดด้านการลงทุน

เราอาจจะคาดหวังทุกอย่างได้ แต่เรามีทุกอย่างไม่ได้

โดย พรหมพงษ์ แสงขำ
เผยแพร่:
218 views

    ช่วงที่ผ่านมาเรื่องที่ทำให้ผมและพวกเรากังวลกันมากที่สุด คือ เรื่องไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งหลาย ๆคนอาจจะมองว่า “ชีวิตเราไม่แน่นอน” ไม่รู้เราจะป่วยหรือเราจะตายเมื่อไร ดังนั้นชีวิตของเราต้องใช้ให้คุ้มต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเราเสมอ ซึ่งจะทำให้เราหลุดโฟกัสจากเป้าหมายที่เราวางแผนไว้ เช่น ตั้งใจวางแผนว่าจะซื้อบ้านราคา 2.5 ล้านบาท แต่พอไปดูเจอบ้านที่ดีกว่า , เนื้อที่ใช้สอยเพิ่มมาหน่อยและใกล้ถนนใหญ่มากขึ้นหน่อยราคา 3.2 ล้าน เราก็จะบอกตัวเองว่าเราโชคดีที่ได้บ้านหลังนี้พยายามเก็บเงินเพิ่มขึ้นหน่อย และแน่นอนได้บ้านแพงกว่าที่คิดก็เพิ่มเวลาในการทำเป้าหมายที่วางไว้อีก 5 ปี ซึ่งหมายความว่าเราต้องลำบากเหนี่อยยากนานขึ้น และอาจจะขยายให้นานขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อจบบ้านก็ต่อด้วยรถ ต่อด้วยอื่นอีกมากมาย

   

     ผมจึงอยากนำเสนอประโยคๆหนึ่งจากหนังสือ “เงินหรือชีวิต”เขียนโดย Vicki Robin (วิกกี โรบิน),Joe Dominguez (โจ โดมิงเกซ),Monique Tilford (โมนีก ทิลฟอร์ด)

 

“ถ้าเราใช้ชีวิตเพื่อมีทุกอย่าง คือ การทำลายเป้าหมายที่แท้จริงของเรา” 

ทำไมต้องประโยคนี้ด้วย 

 

     ผมได้มีประสบการณ์พูดคุยกับเพื่อนๆรอบตัวในเรื่องเป้าหมายของแต่ละคน ซึ่งบอกเลยว่าเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่ตั้งกันนั้นมักจะคล้ายคลึงกันมากๆ อยากมีบ้านหลังใหญ่ อยากมีรถที่ดีกว่าเดิม อยากเที่ยวรอบโลก อยากดูแลครอบครัวได้ดีกว่านี้ อยากมีชื่อเสียงและมี Passive Income เดือนละ 1 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งผมขอสรุปง่ายๆเป็นจำนวนเงินว่า เราอยากมี 100 ล้าน เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นแต่ว่า คนเราพอมีแล้วเราก็อยากมี 1,000 ล้านและก็มากขึ้นๆไปเรื่อยไม่มีที่สิ้นสุด.....(ถามตัวเองดูครับว่า “เมื่อไหร่เราจะได้พัก”) ส่วนใหญ่เป้าหมายของเราจะเริ่มมาจากการซึมซับเรื่องราวที่ดูดีของคนอื่นๆ เช่น เพื่อนเราในเฟส เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้องและบรรดา Idol ที่เราเข้าไปฟังสัมมนา แล้วเมื่อไรเราจะได้ตามเป้าหมายของเราละครับ (ส่วนใหญ่จะจบลงที่การล้มเลิกหรือหนักหน่อยก็ขาดสติเอาเงินที่ควรจะออมตามแผนไปใช้เละเทะ) เชื่อหรือไม่ว่ามันผิดมาตั้งแต่เริ่มแล้ว.....

 

     ลองค่อยๆคิดนะครับ เราอยากได้โน้นได้นี่ แต่แน่ใจหรือเปล่าว่ามันสำคัญกับชีวิตเราจริง ผมอยากชวนคิดต่อว่า “ถ้าวันนี้เราถูกรางวัลที่ 1 ล็อตตอรี่ 6 ล้านบาท” แต่ตอนแรกเราบอกว่าเป้าหมายเรา คือ เราต้องการแค่มีเงิน 3 ล้านบาทเท่านั้นเราจะมีอิสระภาพทางการทำงานและการใช้ชีวิต แต่เราดันมาโชคดีที่ได้รางวัล เราก็เริ่มเปลี่ยนรถ เปลี่ยนบ้าน ไปเที่ยวต่างประเทศตามที่เค้าว่า ว่าต้องไป หรือถ้าแย่หน่อยก็เลิกทำงานที่ทำอยู่ทันที แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ทำแบบนั้น เพราะเราไม่เคยมีเป้าหมายที่แท้จริงยังไงละครับ เรามีแต่เป้าหมายหลอกที่สังคมหล่อหลอมเรา ว่าต้องมีแบบนั้น...ต้องมีแบบนี้...ซึ่งเราจะวนอยู่ใน Loop หรือวังวนนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด (ไปดูหนังเรื่อง Looper ครับแนะนำ)

 

     สุดท้ายนี้ผมอยากให้เพื่อนๆลองถามตัวเองว่า “เป้าหมายที่แท้จริงของเรา คือ อะไร” เราต้องการอะไร ต้องการเมื่อไร แล้วเราจะเริ่มทำเมื่อไร และจะได้หยุดพักเมื่อไหร่ อะไรที่พอเพียงและเพียงพอกับเราจริงๆ แค่นี้ก็จบแล้วไม่ต้องสนใจคนอื่นเพราะเป้าหมายเราคือสิ่งที่เราต้องการ การที่เราเอาเป้าหมายคนอื่นมานั้นมันแปลว่า เราอยากได้อย่างคนๆนั้น ซึ่งเงื่อนไขชีวิต ความต้องการ ครอบครัวของเราและคนๆนั้นไม่มีทางเหมือนกัน แม้แต่นิดเดียว

เบสสีดำ


บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง