สรุปเนื้อหาจากงานสัมมนา 2morrow Fair 2020 “เสียศูนย์ อย่าเสีย Self” ที่ทาง Stock2morrow จัดเมื่อวันที่ 21-22 ธันวาคม 63 โดยหัวข้อนี้ได้รับเกียรติจาก คุณ นิติพงษ์ หิรัญพงษ์ (โค้ชพี่ป๊อบ) อดีตผู้บริหารในวงการไอที ซึ่งหลงไหลการใช้กราฟเทคนิค (Technical Analysis) ในการซื้อขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Indicator ที่มีชื่อว่า อิชิโมกุ (Ichimoku)
ซึ่ง โค้ชพี่ป๊อบ ได้แนะนำเทคนิคการใช้ง่ายๆในเบื้องต้นว่าให้ดูปลายเมฆ หากเป็นสีเขียวเป็นการบอกว่าสัญญาณซื้อ และหากปลายเมฆเป็นสีแดงนั่นหมายถึงสัญญาณขาย
นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สามารถนำมาใช้ทำกำไรได้ในตลาดขาลง เนื่องจากการเล่นหุ้นนั้นเป็นการซื้อหลักทรัพย์ แล้วต้องถือรอให้ราคาขึ้น แต่ในช่วงปีหน้านั้นหากหุ้นเป็นขาลงจริง นักลงทุนจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้เผื่อด้วย ซึ่งผลิตภัณ์การลงทุนที่โค้ชพี่ป๊อบแนะนำใช้ลงทุนช่วงขาลงได้นั้น มีดังนี้
- Derivative warrant (DW) เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ออกโดยโบรคเกอร์ต่างๆ มีข้อดีคือสามารถซื้อขายได้ง่ายในบัญชีที่ใช้ซื้อขายหุ้นได้เลย สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง (โดยหากใช้เก็งกำไรในขาขึ้นให้ทำการ Call และหากใช้เก็งกำไรในขาลงให้ทำการ Put) แต่จะมีข้อเสียคือ จะมี Time Decay หรือค่าเสื่อมเวลา ส่งผลให้มูลค่าของ DW นั้นลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ไม่เหมาะในการถือข้ามวัน โค้ชพี่ป๊อบจึงมักใช้เทรดสั้นๆเพียงในวัน (DayTrade) เท่านั้น
- Single Stock Futures (SSF) หรือการทำ Block Trade โดย 1 สัญญาจะเท่ากับการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ 1,000 หุ้น ซึ่งการซื้อขายผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จำเป็นต้องเปิดบัญชี TFEX ก่อน จึงจะสามารถซื้อขายได้ สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง เช่นเดียวกับ DW (โดยหากใช้เก็งกำไรในขาขึ้นให้ทำการ Long และหากใช้เก็งกำไรในขาลงให้ทำการ Short) ซึ่งแนะนำใช้ SSF มากกว่า DW เนื่องจากไม่มี Time Decay จึงสามารถถือข้ามวันได้โดยที่มูลค่าไม่ลดลง
4 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเทรด มีดังนี้
- Risk Management การจัดการความเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เนื่องจากนักลงทุนแต่ละรายรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
- Time Frame of Trade ในการใช้กราฟเทคนิควิเคราะห์แนวโน้ม การเลือกใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม เป็นเรื่องที่สำคัญ
- Product to Trade ต้องทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไข ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ต้องการลงทุนก่อนเสมอ
- Trade Setup หมายถึง ระบบการเทรด ซึ่งประกอบไปด้วย
- Entry คือ จุดเข้า ต้องเข้าใจว่าเป็น Sell entry หรือ Buy entry
- Stop คือ จุดตัดขาดทุน
- Target Price คือ การวัดระยะราคาเป้าหมายในการทำกำไร เช่น การวัดด้วย Fibonacci
- Exit คือ การวางแผนในการ Run Trend หรือตัดหากทุนหากกราฟมีการเปลี่ยนทิศทาง
หุ้นลักษณะดี 3 ประการ ประกอบด้วย
- Good Price Movement ต้องมีทรงของราคาที่ดี คือ เป็นขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน
- Good Volume ต้องมีปริมาณการซื้อขายของสนับสนุนการเคลื่อนตัวของราคา
- Good Momentum ต้องมีกำลังของราคาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ในการดูกราฟเทคนิคนั้น โค้ชพี่ป๊อบ ย้ำตลอดการสัมนาครั้งนี้ว่า การเลือก Time Frame เป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องตามระยะเวลาที่ต้องการลงทุน เช่น หากดูกราฟใน Time Frame Day จะสามารถคาดการณ์แนวโน้มได้มากสุดประมาณครึ่งเดือน และถ้าหากต้องการดูแนวโน้มระยะกลางถึงยาวควรดูใน Time Frame รายสัปดาห์ และรายเดือน จะส่งผลให้การคาดการณ์มีประสิทธิภาพที่สุด และอย่าลืมดูตรวจสอบว่าว่ามีสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ของราคาและ Indicator หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำกำไรในขาลงได้ด้วยนั้น ไม่ว่าจะเป็น Derivative warrant (DW) , Single Stock Futures (SSF) หรือแม้กระทั้ง TFEX ล้วนมี Leverage ซึ่งทำให้ได้กำไรหรือขาดทุนมากกว่าปกติหลายเท่า ดังนั้นการซื้อขายด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าว จึงจำเป็นต้องศึกษาถึงข้อกำหนด เงื่อนไข รวมถึงรายละเอียดต่างๆของผลิตภัณฑ์อย่างรอบครอบก่อนเริ่มลงทุนเสมอ
ก่อนจบการบรรยายในครั้งนี้ โค้ชพี่ป๊อบ ยังได้ฝากคำคมไว้เตือนใจนักลงทุนด้วยว่า
“เทรดด้วยสิ้นค้าที่รู้จัก ด้วยเครื่องมือที่เข้าใจ และด้วยวินัยที่แข็งแกร่ง”