(ต่อจากตอนที่แล้ว)
ธนาคารกลางของญี่ปุ่น จะสามารถกดดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าจุดตายที่ 4 เปอร์เซ็นต์ได้นานแค่ไหน?
เพื่อที่จะตอบคำถามนี้ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า นักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่นแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และ นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ
สำหรับนักลงทุนสถาบันในประเทศ แท้ที่จริงแล้ว ก็คือเงินออมของคนญี่ปุ่นรายย่อยนั้นเอง เงินออมจากการทำงานก็เอาไปซื้อหน่วยลงทุนของสถาบัน สถาบันก็นำเงินออมเหล่านี้แหละ กลับมาซื้อหุ้นกู้รัฐบาลญี่ปุ่น (เข้าทำนอง "อัฐยายกินขนมยาย" นั้นแหละ)
แต่เนื่องจากประชาชนตาดำๆชาวญี่ปุ่น นับวันยิ่งแก่ตัวลง เมื่อเกษียณไม่ได้ทำงานแล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาออม? มิหนำซ้ำ ยังต้องเบิกเงินที่เคยออมไว้ในสถาบันออกมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายยามแก่อีก ทำให้สถาบันในประเทศเริ่มไม่มีเงินเหลือพอที่จะให้รัฐบาลกู้ได้อีก
การกู้เงินจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศมาโปะค่าใช้จ่าย จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เนื่องจาก ดอกเบี้ยของญี่ปุ่นสุดแสนจะต่ำเตี๊ยติดดิน ทำให้ไม่ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้มาซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น อำนาจการต่อรองผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ย จึงค่อยๆตกอยู่ในมือของนักลงทุนต่างชาติ
“จุดตาย”
สิ่งที่กำลังจะทำให้เกิดความเสี่ยงวิกฤตเพิ่มขึ้นไปอีก อาจเป็นเพราะนโยบายล่าสุดของแบงค์ชาติญี่ปุ่นเอง! นโยบายล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น "อาเบะโนมิกส์" ต้องการจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อ ให้สูงถึง 2 เปอร์เซ็นต์ เพื่อหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้
เมื่อต้องการให้เงินเฟ้อถึง 2% (consumer price) ตามเป้า บวกกับผลตอบจริงที่นักลงทุนอยากได้ที่ 2% (real yield) ทำให้นักลงทุนจำเป๊นต้องเรียกร้องที่จะได้ต้องได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 4% (nominal yield) เป็นอย่างน้อย
และเมื่อไรก็ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่น ต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ย 4% นั่นอาจหมายถึงหายนะของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และอาจลามเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน!
แล้วทั้งหมดนี่ มันเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยตรงไหน?
อย่าลืมว่าญี่ปุ่นคือประเทศที่ลงทุนในไทย (FDI = Foreign Direct Investment) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับนักลงทุนจากชาติอื่นๆ แน่นอนว่า หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงอย่างที่วิดีโอนี้ Japan Debt Problem Visualized วิเคราะห์และนำตัวเลขสถิติมาให้พิจารณา เศรษฐกิจไทยย่อมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน
เปรียบเหมือนกับ... เราขับรถของเรามาดีๆอย่างสุดแสนจะระวังและไม่ประมาท ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอุบัติเหตุนะครับ เพราะอาจซวยคนอื่นขับมาชนเราได้เหมือนกัน