เพิ่งจบไปหมาดๆ กับงาน Opportunity Day หรือ "บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน" ในรอบ Q3’2019
ใครยังไม่เคยดูแนะนำว่าต้องไปดูนะครับ เพราะเป็นงานที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มาพบปะ ให้ข้อมูล เห็นหน้ากัน สอบถามกันได้ เหมือนเป็นทางลัดให้เรารู้จักบริษัทมากขึ้น และทำให้เราเห็นภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ เห็นความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจไทยชัดขึ้น
Opp Day Q3’19 ตีกลมๆ มา 150 บริษัท โดยเฉลี่ยใช้เวลาบริษัทละ 1 ชั่วโมง
ลองหาเวลาวันละ 5 ชั่วโมง ภายใน 1 เดือน เราจะดูครบหมด
หรือทำแบบผมคือใช้ speed 1.5-2 เท่า ก็จะลดเวลาเหลือแค่ 2-3 อาทิตย์ ก็จะเก็บครบหมด
และนี่คือไฮไลท์ 10 ข้อ ที่ผมได้มาจากการดู Opp Day รอบนี้ครับ
1. เศรษฐกิจภาพใหญ่ดูไม่ดี
แทบจะทุกบริษัทมองเหมือนกันหมดว่า กำลังซื้อไม่ดี ส่งออกแย่ ท่องเที่ยวกลับมาโตบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก ผลประกอบการที่เจอคือ
- รายได้โตลดลง กำไรโตลดลง แบบนี้ค่อนข้างเยอะ
- รายได้โตลดลง แต่กำไรโตเพิ่มได้ แบบนี้มีหลายแห่ง เหตุผลคือ ได้ประโยชน์จากต้นทุน บางบริษัทปรับไปขายสินค้ามาร์จิ้นสูงแต่น้อยชิ้นลง และหลักๆ เลยคือตัดค่าใช้จ่าย SG&A
- รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม มีบ้างพอสมควร เช่น พวกโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล โรงเรียน โบรคเกอร์ประกันภัย ออกแนวผูกขาดบ้างหรือเก่งเฉพาะตัวบ้าง
2. รับเหมาก่อสร้าง เสาเข็ม รอความหวังรัฐบาล
หลายบริษัทงบไม่แย่ โดยเฉพาะเสาเข็ม กำไร new high แต่ราคา new low เพราะความกังวลโครงการภาครัฐยังไม่รู้ว่าจะออกมาเดือนไหนกันแน่ จะดีเลย์ไปนานแค่ไหน ขณะที่ backlog ที่มีก็อาจจะอยู่ได้อีกแค่ครึ่งปี ถ้างานรัฐมาไม่ทันก็จะกระทบกำไรในอนาคต รับเหมาและเสาเข็มหลายเจ้าก็ปรับตัวคือ รับทุกงานที่เข้ามา งานเล็กๆ ก็รับหมด เพื่อไม่ให้งานขาดช่วง เพราะฉะนั้นกลุ่มนี้รอความหวังภาครัฐบาล
3. อสังหา โดน LTV และเลื่อนเปิดหลายโครงการ
หลายบริษัททำผลงานไม่เข้าเป้า เหมือนจะเริ่มเห็น Over Supply และมาตรการ LTV กระทบปีนี้เยอะ หลายบริษัทเลื่อนโครงการไปเปิดตัวปีหน้าเพราะยอด pre-sale ไม่ดี บริษัทที่พอโตได้ออกจะเป็นโครงการแนวราบมากกว่า ต้องติดตามว่ามาตรการภาครัฐที่ออกมาใหม่อย่าง บ้านนี้มีดาวน์ จะช่วยได้แค่ไหน อาจจะช่วยโครงการบ้านหรือคอนโดราคาไม่แพงได้บ้าง แต่จะผ่อนไหวไม่ไหวอีกเรื่องนึง
4. ยานยนต์ เริ่มแผ่วทั้งผลิตและขาย
หลังจากได้อานิสงส์รถคันแรกผ่านไป ยอดผลิตและยอดขายเริ่มแผ่วลง หลายบริษัทคาดการณ์เหมือนกันหมดว่าปีนี้ยอดผลิตรถยนต์ทรงถึงลงนิดหน่อย ปีหน้าก็ยังไม่น่าโต ทั้งในและต่างประเทศ ก็เลยดูน่าเป็นกังวลกับหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งหลาย บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นก็กระทบด้วย (ดูตัวเลข Motor Expo จะเห็นชัดว่าลดลง)
มีประเด็นเรื่องรถ EV ที่หลายบริษัทบอกว่ามาแน่ แต่คิดว่าคงไม่เร็วมาก มีทั้งบริษัทที่เริ่มปรับตัว และมีบางบริษัทดูยังไม่เริ่มทำอะไรมาก แต่ก็มีความเชื่อกันว่าชิ้นส่วนของตัวเองน่าจะเอาไปใช้กับรถ EV ได้
5. สินค้าอุปโภคบริโภค ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับกันไป
โดยรวมกำลังซื้อหดตัว แต่บางเจ้าขายเครื่องดื่มก็โตได้ ขายกางเกงยีนส์ยอดขายเหมือนจะเริ่มมา เสื้อในขายออนไลน์โต แต่ร้านตัวเองอาจจะแผ่ว ๆ เจ้าที่ขายสินค้าเด็กไม่ดีต่อเนื่อง ส่วนการขายในตลาดต่างประเทศ พม่าดี กัมพูชาแข่งขันสูง จีนยังเหนื่อย ฟิลิปปินส์ดี อินโดเริ่มจะดีแต่ก็แข่งดุ
6. ร้านค้าปลีก ยังพอไหว
- ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่งก็โตใช้ได้ SSSG โตด้วยนะ และบางร้านได้ประโยชน์จากบัตรสวัสดิการรัฐก็ทำให้ยอดโต
- ร้านค้าขาย IT โตได้ดีอยู่ แต่ยอด iphone ไม่ดีมาก เพราะรอขาย iphone11 ใน Q4 กัน ซึ่งแนวโน้มดีมาก และสินค้า apple วางขายเยอะมากใน Q4
- ร้านค้าเครื่องประดับ เป็นปีทีดีมาก SSSG ก็โต ร้านเปิดใหม่ก็ดี อีกบริษัทที่ขายทองด้วยก็ดูเหมือนแนวโน้มอยากกลับตัว ยอดรับจ้างผลิตส่งออกดีขึ้น
7. โรงไฟฟ้า ส่วนมากไปได้ดี
โรงใหญ่ๆ เหมือนจะเริ่มแพง แต่ก็มีบางตัวที่เป็นโรงกลางๆ เล็กๆ น่าสนใจ มี 2-3 บริษัทที่ก่อสร้างอยู่โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นในอีก 2 ปี ข้างหน้า ตอนนี้เร่งหาโครงการอื่นทั้งไทย มาเลเซีย ไต้หวัน มาปิด gap แล้วก็มีเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนที่น่าจะเป็นความหวังเล็กๆ ถ้าเกิดขึ้นมาได้ โดยเฉพาะชีวมวลน่าจะได้ประโยชน์ แต่ก็ต้องระวังเรื่องต้นทุนวัตถุดิบว่าราคาอาจจะแพง
8. โรงกลั่น ปิดซ่อมกันเยอะ แต่ปีหน้าอาจะดี
หลายโรงเลยที่ปิดไปแล้ว Q3 และมีอีกโรงจะปิด Q4 ปีนี้ปิดซ่อมใหญ่ 45 วัน ยอดขายหายเยอะเลย (ดูตัวเลขส่งออกเดือนพฤศจิกายน ติดลบส่วนนึงก็มาจากเรื่องนี้) แต่ว่าปีหน้าจะมีมาตรการ IMO2020 ที่เรือทุกลำต้องเปลี่ยนมาใข้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ หรือน้ำมันดีเซลสำหรับเดินเรือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อโรงกลั่น แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ก็ยังต้องติดตามค่าการกลั่นกับสต็อคน้ำมันให้ดี
9. สื่อสาร ดีขึ้น รอประมูล 5G
การแข่งขันยังมีอยู่ แต่เริ่มไม่โหดมากเหมือนเดิม โดยเฉพาะรายเดือน แต่ทีเริ่มจะมาดุขึ้นคือ อินเตอร์เน็ทบ้าน ที่ลดแลกแจกแถมเพิ่มสปีด เจ้าสีเขียวตั้งเป้าทะลุล้านก็น่ากลัวอยู่ เจ้าตลาดเลข 3 ก็ทำโปรแข่ง แล้วเห็นไปจับมือกับค่ายสีฟ้าด้วย
แต่เรื่องที่น่าติดตามคือประมูล 5G ที่มองว่าดี ทำให้การเชื่อมต่อดีขึ้น เร็วขึ้น เทคโนโลยีจะล้ำสมัยขึ้น โทรศัพท์ที่รองรับก็คงแพงขึ้นด้วย แต่เรื่องที่ห่วงคือ การประมูลจะเป็นยังไง มีกี่คลื่นเข้าประมูล เงื่อนไขการจ่ายยังเป็น 10% ปีแรก แล้วเวฟให้ปีที่ 2-4 หรือเปล่า ต้องรอดู
10. โรงพยาบาล ดีและไม่ดีคละๆ กันไป
มีที่นึงโรงพยาบาลใหม่เพิ่งเปิดไม่ถึงปี กำไรแล้ว จากเบาหวาน เป็นตัวช่วยให้ทั้งกลุ่มโต อีกโรงพยาบาลเน้นโรคซับซ้อน โดยเฉพาะไต กำลังรอเปิดตึกปีหน้า ดูแนวโน้มอาจไม่สดใส รายได้ไม่น่าทันค่าเสื่อม อีก 2 โรงพยาบาล รอลุ้นได้เพิ่มค่าหัวผู้ประกันตน ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก แต่ตัวโรงพยาบาลของตัวเองก็ยังไปได้ดี
และนี่ก็คือ Key Highlight แบบกว้างๆ นะครับ ใครสนใจกลุ่มไหน บริษัทไหน อยากให้ลองไปติดตามดูกันต่อได้ที่ Link นี้เลยครับ
https://www.set.or.th/streaming/#/vdos-oppday
ป.ล. ตอนนี้วิตามินหุ้นเปิดคอร์สสรุปงบการเงินรอบ Q4’19 และ Q1’2020 คอร์สยาว 6 เดือน ใครสนใจทักมานะครับ