ช่วงนี้มีแต่ข่าวเศรษฐกิจจีนซบเซา จนดูเหมือนว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไปน่าจะเกิดเพราะจีน แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า "ญี่ปุ่น" ต่างหาก ที่ปัจจุบันมีความเสี่ยงและเปราะบางมาก จนอาจเป็นตัวจุดชนวนวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป!
เพราะอะไร?
เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน บทความจึงต้องเขียนอธิบายกันยาวหน่อย แต่ต้องขอบคุณ "Japan Debt Visualized" ที่ถ่ายทอดเรื่องอันแสนซับซ้อนนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
เข้าเรื่องเลยนะครับ..
ไม่น่าเชื่อว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีปัญหาเรื้อรังเรื่อง "หนี้" ติดอันดับต้นๆของโลก! จากตัวเลขเมื่อปลายปี 2012 หนี้ภาครัฐ (Public Debt) ของประเทศญี่ปุ่น สูงถึง 200 % ของ GDP ด้วยก้อนหนี้จำนวนมหึมาเช่นนี้ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะสามารถใช้คืนหนี้ก้อนนี้ได้หมด
… แต่นั้นยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว และน่ากังวลเท่ากับสิ่งที่กำลังจะเล่าต่อไป
เพื่อที่จะเข้าใจว่า ญี่ปุ่น "เดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?" เราต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าหนี้ภาครัฐจำนวนมหาศาล มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง?
ในแต่ละปีรัฐบาลญี่ปุ่น มีรายได้จากการเก็บภาษี ทั้งจากประชาชนทั่วไป และจากภาษีธุรกิจต่างๆ เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นมีรายได้จากภาษี รัฐบาลก็นำเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายเพื่อดูแลประชาชนในรูปของสาธารณูปโภค สวัสดิการสังคม และบริการสาธารณะอื่น
แต่เนื่องจากสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุของญี่ปุ่นมีเป็นจำนวนมากเหลือเกิน รัฐบาลจึงมีรายจ่ายในการดูแลประชากรสูงอายุ แซงหน้ารายรับจากภาษีจากคนทำงานรุ่นหนุ่มสาว
สิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นทำเพื่อที่จะ "โปะ" ค่าใช้จ่ายที่เกินรายรับเหล่านี้ ก็คือการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่ม (หรือเรียกง่ายๆว่า ต้อง "กู้เงิน" มาโปะนั่นเอง)
เมื่อเหตุการณ์ชักหน้าไม่ถึงหลังแบบนี้เกิดขึ้นทุกปีๆ หนี้ภาครัฐจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปจึงเริ่มกังวลว่า รัฐบาลจะมีปัญญาจ่ายหนี้เหล่านี้คืนได้จริงหรือ?
รัฐบาลญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (Central Bank) ให้ช่วย "ลดอัตราดอกเบี้ย" ให้หน่อย สิ่งที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นทำก็คือการ "พิมพ์เงิน" ออกมาเยอะๆเพื่อกดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลต้องจ่ายดูเหมือนจะลดลง
ดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาเรียบร้อยใช่หรือไม่? ... เปล่าเลย การแก้ปัญหาด้วยการประกาศลดดอกเบี้ยและพิมพ์เงินออกมา ทำให้เกิดปัญหาปวดตับหนักยิ่งขึ้นไปอีก!!
(ตอนนี้ยาวแล้ว ติดต่อตอนต่อไปครับ)
** เพื่อแจ้งเตือนตอนต่อไป เพื่อนๆสามารถตั้งค่าใน Facebook ให้ "รับการแจ้งเตือน" หรือ "เห็นโพสก่อน" ได้