เป็นคำแนะนำที่ออกจะดูแปลกประหลาดไปซะหน่อย เพราะใครๆ เขาก็มีแต่บอกว่าขอให้โชคดี ขอให้กำไร แต่ผมอยากจะบอกว่า มาขาดทุนกันเถอะครับ ขาดทุนให้เจ็บ ให้จำ ให้มันชินกันไป ขาดทุนหลายๆ ท่า หลายๆ แบบ เพราะผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราจะเบื่อกับมันและเราจะเรียนรู้จนไม่กลับมาขาดทุนอีกเลย 

 

ธรรมชาติของมนุษย์เรา ไม่มีใครอยากเสียใจ ไม่มีใครอยากขาดทุน

เราเชื่อทุกครั้งที่ซื้อหุ้นว่ามันจะขึ้น แต่หลายครั้งที่เราซื้อแล้วหุ้นลงจนขาดทุน

บางครั้งเพราะเราไม่เข้าใจธุรกิจ

บางครั้งเพราะเรามองโลกในแง่ดีเกินไป

บางครั้งเพราะเรามาซื้อตอนราคาแพงไป

 

    ผมอยากจะบอกว่า ไม่ผิดที่คุณขาดทุนเพราะความไม่รู้ ไม่ผิดที่ขาดทุนเพราะไม่มีประสบการณ์ แต่คำแนะนำของผมคือ อย่าขาดทุนเรื่องเดิมๆ เกิน 3 ครั้ง เพราะผมคิดว่า

• ครั้งแรก อาจขาดทุนเพราะไม่รู้ ไม่เคยเจอแบบนี้
• ครั้งที่สอง ขาดทุนเพราะไม่แน่ใจว่าครั้งแรกเราอาจโชคไม่ดีหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า
• ครั้งที่สาม เอาให้ชัวร์ว่าเราผิดจริงๆ แน่ๆ ถ้าทำแบบนั้น

 

    เพราะฉะนั้น ผมถึงคิดว่า ความผิดพลาดแค่ 3 ครั้ง น่าจะทำให้เราได้เรียนรู้แล้วนะว่า ท่านี้ใช้ไม่ได้ผล และให้ขยับความเก่งของคุณไป ขาดทุนกับท่าใหม่ ใช่แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องรีบทำกำไร ลองขาดทุนไปก่อน เป็นมนุษย์ล้มแล้วไปก่อน เพราะคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนมีบาดแผลเต็มหลังกันทั้งนั้น เพียงแต่เราแค่ไม่เห็นก็เท่านั้น

 

 

    ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ปัญหาหนึ่งที่เจอคือ เราชอบผิดพลาดอยู่กับเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น ตอนหุ้นถูกๆ ไม่กล้าซื้อ เพราะไม่ชัวร์ว่าดีจริงมั้ย แต่พอราคาขึ้นเท่านั้นและเห็นคนอื่นซื้อกัน เราก็เลยรีบซื้อตามเพราะกลัวพลาดโอกาสทำกำไร สุดท้ายเราติดดอย อาการแบบนี้เรียกว่า Fear of Missing Out หรือ FOMO

 

    เราบอกกับตัวเองว่า คราวหน้าจะไม่ซื้อตอนหุ้นขึ้นแรงๆ หุ้นแพง ๆ อีกแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน พอเราไปเจอหุ้นตัวใหม่ เราก็ลืมสิ่งที่เราสัญญาไว้ ด้วยอารมณ์กลัวตกรถ เราก็ติดดอยอีกครั้ง เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเราก็มานั่งบ่นกับตัวเองว่า เมื่อไหร่จะประสบความสำเร็จซักที

 

    หรือเราชอบซื้อหุ้นไปก่อน แล้วพอหุ้นลงค่อยมาถามว่า ตกลงหุ้นตัวนี้ทำธุรกิจอะไรนะ อนาคตดีมั้ย งบเป็นยังไง ถือยาวๆ ได้มั้ย สุดท้ายก็เก็บหุ้นตัวนี้เข้าพอร์ตลงทุนระยะยาวแบบไม่สมัครใจ แต่แน่นอน ไม่กี่วันผ่านไป เราก็ยังคงทำแบบเดิมอีก อาจจะเห็นหุ้น IPO ตัวใหม่ ราคาวันแรกพุ่งสูงปรี๊ด ก็เข้าไปซื้อ พอติดดอยก็ค่อยมาถามเพื่อนว่า ตกลงหุ้นตัวนี้ทำอะไร

 

ไม่ว่าคุณจะขาดทุนเพราะ FOMO หรือ ไม่รู้จักธุรกิจก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าผิดท่าเดิมเกิน 3 ครั้งพอครับ

 

    ถ้าใครจำนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าได้ ผมเชื่อว่า ถ้าให้สัตว์ทั้งคู่มาแข่งกันอีก ผมเชื่อว่ากระต่ายจะไม่แพ้เพราะนอนหลับกลางทางแน่ๆ แต่มันอาจจะแพ้เพราะแวะกินแครอทข้างทางแทน ซึ่งก็ไม่เป็นไร พอแข่งครั้งต่อไป มันก็จะรู้แล้วว่าทำยังไงถึงจะไม่แพ้ด้วยท่าเดิมอีก

 

สุดท้ายผมเชื่อในคำพูดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่บอกว่า

“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่หวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง”  

เพราะฉะนั้น ถ้าอยากสำเร็จในการลงทุน เป็นคนบ้าแค่ 3 ครั้งพอนะครับ