หุ้นน้ำตาล เป็นอะไรที่คาดการณ์ยากมาก
ขึ้นกับทั้งสภาพอากาศ ค่าเงิน เอทานอล และการอุดหนุนจากรัฐบาล
ผู้บริหาร BRR บอกใน Opp Day ว่า สภาพอากาศไม่ดี ทั้งภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงนาน ปริมาณหีบอ้อยจะลดลงจาก 350,000 ตัน เหลือ 270,000-280,000 ตัน คือ ลงไป 20% เลยนะ
ขณะที่ความต้องการใช้ "น้ำตาล" ยังเยอะอยู่ แปลว่า Demand > Supply
"ราคาน้ำตาลเลยสูงขึ้น"
ฟังดูเหมือนจะดี แต่ถ้ามองในภาพใหญ่ ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น
- บราซิล เป็นอีกประเทศที่มีน้ำตาลเยอะ แต่ว่าเอาไปผลิตเอทานอลมากกว่า เพราะได้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ถ้าราคาน้ำตาลขึ้นสูงมาก ๆ ก็อาจมีแรงจูงใจให้มาขายน้ำตา
- อินเดีย เป็นประเทศที่มีสต็อกน้ำตาลเยอะมาก และได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งการเอาออกมาส่งออกมาก ๆ ก็จะกดดันราคาน้ำตาลให้ลดลงได้ แต่ก็มีการยื่นเรื่องไปที่ WTO ให้เข้ามาช่วยบอกอินเดียหน่อย
- ค่าเงินบาทที่แข็ง แต่ค่าเงินบราซิลอ่อน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สินค้าเราดูแพงกว่า
ดูแล้วมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำตาลทั้งควบคุมได้และไม่ได้ ทำให้การคาดการณ์ทำได้ค่อนข้างยาก และยิ่งถ้าลงรายละเอียดไปที่รายบริษัทก็จะมีเรื่องของโรงไฟฟ้าบ้าง การลงทุนเครื่องจักรบ้างเพิ่มเติมเข้ามาอีก อย่าง BRR เองก็มีการลงทุนเพิ่ม โดนค่าเสื่อมปีละเป็นร้อย ๆ ล้านบาท และปีนี้ก็พบกับคำว่าขาดทุน จนผู้บริหารถึงกับพูดว่า
"ใครที่ลงทุน BRR อย่าท้อ เพราะเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น สิ่งที่ลงมาเราว่ามันเกินไป"
ใครสนใจหุ้นน้ำตาล อย่าเพิ่งมองแค่ว่าราคาน้ำตาลเริ่มขึ้นแล้วจะดี ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วนทั้งปัจจัยภายนอกและภายในแต่ละบริษัทกันก่อนนะครับ