#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

รีวิว Oppday ของ ILM ประจำไตรมาส 3/62 .. ยังต้องให้เวลาพิสูจน์

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
92 views

จากโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง HMPRO และ GLOBAL ที่ทำธุรกิจขายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างบ้าน ธุรกิจที่ดูใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น ILM "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" แต่ธุรกิจจะเน้นในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน งานออกแบบ ดีไซส์ภายในบ้านแบบนั้นมากกว่า
 


มีโอกาสได้ฟัง Opp day แล้ว ก็ต้องบอกว่า ILM มี "ภารกิจ" ที่จะต้องทำอีกมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายสาขา เพิ่มขนาดพื้นที่ให้เช่า ค้นหา"การเติบโต"รอบใหม่ของธุรกิจ และความกังวลของนักลงทุนที่ว่าภาพรวมของอสังหาเมืองไทยไม่ค่อยดีเท่าไรนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แล้ว ILM ที่รับงานเฟอร์นิเจอร์ รับเหมาตกแต่งบ้านจะได้รับผลกระทบไปด้วยไหม งานนี้แทบจะตอบได้ทุกอย่าง มีอะไรบ้างมาดูกันครับ
 


ในปัจจุบัน ILM มี Market Share อยู่ที่ 21% ซึ่งยังสูงกว่าคู่แข่ง โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจห้างสรรพสินค้า Index living Mall มีทั้งหมด 31 สาขา
 


การทำธุรกิจ Online ได้รับผลตอบรับดี เติบโตเป็นเลข 3 หลัก !! โดยผ่านช่องทาง  LINE@ ส่วนใน LAZADA และ Shopee ทางบริษัทก็ยังไปได้ดี

สัดส่วนรายได้ของของ ILM จะมาจากสองส่วนหลักใหญ่ๆ คือ ธุรกิจที่ ILM ทำเองประมาณ 94% และพื้นที่ให้เช่า 6% ซึ่งปีหน้าบริษัทจะพยายามลดไซส์ของการวางสินค้าให้น้อยลง และเพิ่มการหาพาร์ทเนอร์ในการเช่าพื้นที่มากขึ้น ตรงนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้พื้นที่เช่าให้มากขึ้น ดึง Traffic คนเข้าห้างมากขึ้น
 


บริษัทยังตั้งเป้าขยายสาขาปีละ 1-2 สาขา เน้นในต่างจังหวัดหัวเมืองรอง ไซส์ไม่ใหญ่มาก และหาพาร์ทเนอร์ควบคู่กันไปด้วย ส่วนเรื่องธุรกิจต่างประเทศยังไม่เน้นเท่าไรปลักษณะเฟรนไชส์มากกว่า หรือรับจ้างทำแล้วส่งขายต่างประเทศ สรุปคือ จะยังเน้นในไทย นี้ละ
 


การปิดสาขามาเลเซีย เนื่องจากขาดทุน ทั้งภาวะเศรษฐกิจของมาเลเซียไม่ดีด้วย ค่าเงินด้วย ... นี้ก็ถือเป็นข้อสรุปว่าการทำธุรกิจต่างประเทศไม่ง่าย ขนาดที่ว่าก่อนจะไปมาเลเซีย บริษัททำการบ้านมาดีแล้ว ศึกษามาดีแล้วก็ยังพลาดได้
 


ธุรกิจ Community Mall เช่น The Walk คู่แข่งค่อนข้างเยอะ และใช้เงินลงทุนสูง ... อันนี้บริษัทไม่ได้บอกว่าจะทำยังไงต่อ แต่คิดว่าพูดลักษณะนี้น่าจะไม่มีโปรเจคใหญ่ๆลักษณะนี้ไปอีกหลายปี น่าจะเน้นขยายสาขาขนาดเล็กมากกว่า ไม่ก็เอาธุรกิจของ Winner Store ไปลง
 


บริษัทพูดถึงแบรนด์ใหม่อย่าง Younique และบอกว่านี้คือ "การเติบโต" รอบใหม่ ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สั่งทำ สั่งตัด ใช้พื้นที่ไม่ใหญ่ สามารถไปอยู่ตามห้างสรรพสินค้าได้ ตอนแรกตั้งไว้ว่าจะเน้นลูกค้าที่เป็นคอนโด แต่กลับกลายเป็นว่าบ้านเดี่ยวจะนิยมมากกว่า ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นของ Younique ค่อนข้างดีกว่า ตรงนี้ก็ยังต้องดูกันต่อไป ...
 


เดียวนี้ ILM พยายามจะขยายสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น กระเป๋าเดินทาง กระดาษทิชชู่ กล่องใส่ของที่นอกเหนือจากของตกแต่งบ้าน ซึ่งไม่แน่ใจว่าตรงนี้จะไปชนกับออนไลน์หรือเปล่า เพราะสินค้าพวกนี้การสั่งผ่านออนไลน์ค่อนข้างทำได้ง่าย ถูกกว่า เล่นโปรโมชั่นได้ดีกว่า

ส่วนภาพรวมของอสังหาจะไม่ค่อยดี แต่บริษัทยังมี Backlog โครงการอยู่บ้าง มั่นใจว่าปีหน้าจะยังเติบโตได้อีก ตรงนี้สำคัญและเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตามองว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า

 

ปัจจุบัน ILM มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้าง "เกาะกลุ่ม" กับ HMPRO และ GLOBAL โดย
-- ILM มีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 6.2%
-- HMPRO มีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 8.7%
-- GLOBAL มีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 6.7%

แต่อัตราส่วน P/E P/BV ถูกกว่า 2 ตัวหลัง โดย ILM มี P/E 12 เท่า P/BV 1.7 เท่า

 

 

ก็ถือเป็นอีกตัวที่จับตามอง ทำการบ้านกันต่อครับ ....


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง