อีกไม่กี่วันก็กำลังจะหมดปี 2562 แล้ว  ตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่ไปไหนจริงๆ อยู่แถวๆ 1600 กว่าๆ มาตั้งแต่ต้นปี และก็น่าจะจบแถวๆนี้เหมือนกัน    เวลาที่ตลาดไม่ค่อยไปไหน ก็มักจะมีคำถามว่า ตลาดเงียบๆไม่ค่อยไปไหนแบบนี้  นักลงทุนรายใหญ่ๆ หรือนักลงทุนที่ลงทุนเป็นอาชีพเลย เขาจะทำอะไรกัน

 

จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับนักลงทุนอาชีพพอร์ตใหญ่ๆมากมาย  เอาจริงๆคือแต่ละท่าน มีการทำ Asset Allocation กันทั้งนั้น  หมายถึงว่า ไม่ได้ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว  แต่อาจจะมีลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆด้วย เช่น ทองคำ กองทุน  หรือที่นิยมกันมาก ก็คงเป็น อสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน โรงแรม บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม และแน่นอนว่า มีนักลงทุนหลายๆท่าน ที่เลือกลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ด้วย

 

การลงทุนอสังหาฯในต่างประเทศนั้น  นอกจากเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวแล้ว ยังเป็นการมองหาโอกาสผลตอบแทนใหม่ๆ ที่นอกจาก Capital Gain ด้วย  เช่น หลายๆ คน อาจจะเคย ได้ยินว่า เศรษฐีบางคนส่งลูกไปเรียนอังกฤษ  แทนที่จะต้องเช่าหอพักให้ลูกอยู่  หากเปลี่ยนเป็นซื้อ คอนโด หรือซื้อบ้านในบางทำเลไปเลย  พอลูกๆเรียนจบ ก็ขายบ้านขายคอนโดออกไป  นอกจากจะประหยัดค่าเช่าแล้ว ยังได้ค่าเทอมกลับคืนมาด้วย เพราะตอนที่ขายออกไปนั้น ส่วนใหญ่จะได้กำไรกันก้อนโต (ขึ้นกับจังหวะเวลาด้วย)

 

ช่วงนี้บ้านเรา ประกาศลดดอกเบี้ยกันไปแล้ว  ประกาศลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไปก็แล้ว ตลาดหุ้นก็ย่ำขึ้นย่ำลงไม่ไปไหน  ตลาดอสังหาฯบ้านเราก็พากันหดตัวตามสภาพเศรษฐกิจโลก  หาอะไรที่น่าสนใจในบ้านเราเพื่อลงทุนก็เลยยากสักหน่อย

เราจึงได้เห็น อสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ บางแห่งที่มีแนวโน้มจะกลับไปเป็น up trend เริ่มทำการตลาด หรือขึ้นโครงการใหม่ๆกัน  และไม่ทำตลาดเฉพาะบ้านเขาเท่านั้น แต่เริ่มขยายมาหานักลงทุนไทยที่มองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆด้วย

อย่าง JLL ที่เป็น ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่รายหนึ่งของโลก ก็กำลังมีโครงการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทำเลดีใน London มานำเสนอ คือ

โครงการ  8 Casson Square (เอท แคสซัน สแควร์)  อาคารสูง 30 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งบริการผู้ช่วยพิเศษ (Concierge Service) ตลอด 24 ชั่วโมง เฮลธ์คลับ สปา ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย ,เล้านจ์สำหรับให้ผู้อยู่อาศัยใช้นั่งทำงานหรือพักผ่อนจิบชากาแฟ สวนลอยฟ้าและสระว่ายน้ำในร่ม เรียกว่า เป็นคอนโดมิเนียมที่มีความครบครันพร้อม  ที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้  อยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ในย่าน Southbank ที่อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ทั้งติด Jubilee Gardens ติด London Eye ซึ่งเป็น Landmark สำคัญที่ใครมาอังกฤษต้องมาถ่ายรูป  ใกล้ Westminster ระยะเดินแค่ 2 นาที ถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ใกล้พระราชวังบัคกิ้งแฮม และยังได้วิวแม่น้ำเธมส์ อีกด้วย  ทำเลที่ตั้งยังใกล้อาคารสำนักงาน ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ใกล้สวนสาธารณะ ใกล้หอศิลป์  เรียกว่า เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตเลย  ลอนดอนยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมระดับโลกด้วยความหรูหราและมีสไตล์มากมาย  ดังนั้น แหล่งการใช้ชีวิตแบบนี้ แน่นอนว่าจะมี Demand การหาที่อยู่อาศัยตามติดมาด้วยแน่นอน

 

 

 

 

จังหวะเวลาในการพิจารณาลงทุนในต่างประเทศ ถือว่าช่วงนี้น่าสนใจ เพราะค่าเงินบาทเรา แข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี แปลว่า ถ้าเราแลกเงินตอนนี้ เราประหยัดเงินบาทไปอีกมากพอสมควรเลย เทียบกับปีที่ผ่านมา

ดังนั้นการลงทุนแบบนี้ เราจึงสามารถคาดหวังได้ทั้ง Capital Gain และ การทำกำไรจากค่าเงินด้วย หากหาจังหวะการลงทุนดีๆ   การที่จะเป็นเจ้าของหรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่าคอนโดที่นี่ในขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ทั้งแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน  จะสามารถใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 35 ล้านบาท  ไม่ต่างกับคอนโดระดับ Super Luxury ในกรุงเทพเท่าไรเลย  แต่ นี่คือ London ที่ซึ่งราคาของอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มจะกลับไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน  รวมทั้ง การถือเพื่อขายต่อทำกำไร ที่จะได้ทั้ง Capital Gain จากราคาที่สูงขึ้นในอนาคต และ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน  หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในอนาคต 

 

ข่าวดี คือ ทาง JLL กำลังจะจัดงาน เพื่อเชิญผู้สนใจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการ  8 Casson Square ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน – อาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมนี้ ที่ห้องสโรชา ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้  หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ คุณก้าว 081-617-1492 หรือ คุณอาร์ท 096-924-1962

เมื่อเป็นนักลงทุน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ “โอกาส” ที่ต้องลองเปิดตามองหาตลอดเวลา ลองหาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเองดู

อีกไม่กี่วันก็กำลังจะหมดปี 2562 แล้ว  ตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่ไปไหนจริงๆ อยู่แถวๆ 1600 กว่าๆ มาตั้งแต่ต้นปี และก็น่าจะจบแถวๆนี้เหมือนกัน    เวลาที่ตลาดไม่ค่อยไปไหน ก็มักจะมีคำถามว่า ตลาดเงียบๆไม่ค่อยไปไหนแบบนี้  นักลงทุนรายใหญ่ๆ หรือนักลงทุนที่ลงทุนเป็นอาชีพเลย เขาจะทำอะไรกัน

จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับนักลงทุนอาชีพพอร์ตใหญ่ๆมากมาย  เอาจริงๆคือแต่ละท่าน มีการทำ Asset Allocation กันทั้งนั้น  หมายถึงว่า ไม่ได้ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว  แต่อาจจะมีลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆด้วย เช่น ทองคำ กองทุน  หรือที่นิยมกันมาก ก็คงเป็น อสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน โรงแรม บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม และแน่นอนว่า มีนักลงทุนหลายๆท่าน ที่เลือกลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ด้วย

 

การลงทุนอสังหาฯในต่างประเทศนั้น  นอกจากเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวแล้ว ยังเป็นการมองหาโอกาสผลตอบแทนใหม่ๆ ที่นอกจาก Capital Gain ด้วย  เช่น หลายๆ คน อาจจะเคย ได้ยินว่า เศรษฐีบางคนส่งลูกไปเรียนอังกฤษ  แทนที่จะต้องเช่าหอพักให้ลูกอยู่  หากเปลี่ยนเป็นซื้อ คอนโด หรือซื้อบ้านในบางทำเลไปเลย  พอลูกๆเรียนจบ ก็ขายบ้านขายคอนโดออกไป  นอกจากจะประหยัดค่าเช่าแล้ว ยังได้ค่าเทอมกลับคืนมาด้วย เพราะตอนที่ขายออกไปนั้น ส่วนใหญ่จะได้กำไรกันก้อนโต (ขึ้นกับจังหวะเวลาด้วย)

 

ช่วงนี้บ้านเรา ประกาศลดดอกเบี้ยกันไปแล้ว  ประกาศลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไปก็แล้ว ตลาดหุ้นก็ย่ำขึ้นย่ำลงไม่ไปไหน  ตลาดอสังหาฯบ้านเราก็พากันหดตัวตามสภาพเศรษฐกิจโลก  หาอะไรที่น่าสนใจในบ้านเราเพื่อลงทุนก็เลยยากสักหน่อย

เราจึงได้เห็น อสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ บางแห่งที่มีแนวโน้มจะกลับไปเป็น up trend เริ่มทำการตลาด หรือขึ้นโครงการใหม่ๆกัน  และไม่ทำตลาดเฉพาะบ้านเขาเท่านั้น แต่เริ่มขยายมาหานักลงทุนไทยที่มองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆด้วย

อย่าง JLL ที่เป็น ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่รายหนึ่งของโลก ก็กำลังมีโครงการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทำเลดีใน London มานำเสนอ คือ

โครงการ  8 Casson Square (เอท แคสซัน สแควร์)  อาคารสูง 30 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งบริการผู้ช่วยพิเศษ (Concierge Service) ตลอด 24 ชั่วโมง เฮลธ์คลับ สปา ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย ,เล้านจ์สำหรับให้ผู้อยู่อาศัยใช้นั่งทำงานหรือพักผ่อนจิบชากาแฟ สวนลอยฟ้าและสระว่ายน้ำในร่ม เรียกว่า เป็นคอนโดมิเนียมที่มีความครบครันพร้อม  ที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้  อยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ในย่าน Southbank ที่อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ทั้งติด Jubilee Gardens ติด London Eye ซึ่งเป็น Landmark สำคัญที่ใครมาอังกฤษต้องมาถ่ายรูป  ใกล้ Westminster ระยะเดินแค่ 2 นาที ถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ใกล้พระราชวังบัคกิ้งแฮม และยังได้วิวแม่น้ำเธมส์ อีกด้วย  ทำเลที่ตั้งยังใกล้อาคารสำนักงาน ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ใกล้สวนสาธารณะ ใกล้หอศิลป์  เรียกว่า เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตเลย  ลอนดอนยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมระดับโลกด้วยความหรูหราและมีสไตล์มากมาย  ดังนั้น แหล่งการใช้ชีวิตแบบนี้ แน่นอนว่าจะมี Demand การหาที่อยู่อาศัยตามติดมาด้วยแน่นอน

 

จังหวะเวลาในการพิจารณาลงทุนในต่างประเทศ ถือว่าช่วงนี้น่าสนใจ เพราะค่าเงินบาทเรา แข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี แปลว่า ถ้าเราแลกเงินตอนนี้ เราประหยัดเงินบาทไปอีกมากพอสมควรเลย เทียบกับปีที่ผ่านมา

ดังนั้นการลงทุนแบบนี้ เราจึงสามารถคาดหวังได้ทั้ง Capital Gain และ การทำกำไรจากค่าเงินด้วย หากหาจังหวะการลงทุนดีๆ   การที่จะเป็นเจ้าของหรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่าคอนโดที่นี่ในขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ทั้งแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน  จะสามารถใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 35 ล้านบาท  ไม่ต่างกับคอนโดระดับ Super Luxury ในกรุงเทพเท่าไรเลย  แต่ นี่คือ London ที่ซึ่งราคาของอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มจะกลับไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน  รวมทั้ง การถือเพื่อขายต่อทำกำไร ที่จะได้ทั้ง Capital Gain จากราคาที่สูงขึ้นในอนาคต และ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน  หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในอนาคต 

 

ข่าวดี คือ ทาง JLL กำลังจะจัดงาน เพื่อเชิญผู้สนใจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการ  8 Casson Square ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน – อาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมนี้ ที่ห้องสโรชา ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้  หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ คุณก้าว 081-617-1492 หรือ คุณอาร์ท 096-924-1962

เมื่อเป็นนักลงทุน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ “โอกาส” ที่ต้องลองเปิดตามองหาตลอดเวลา ลองหาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเองดู