มีข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้น BCP ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนมากถึง 70 ล้านหุ้น ด้วยวงเงินมากถึง 2,100 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว และยังแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่าจะซื้อหุ้นคืนเริ่มตั้งแต่วันที่ 06 ธ.ค. 2562 ถึงวันที่ 05 มิ.ย. 2563
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และมูลค่าหุ้นพื้นฐานน่าจะมีมูลค่าที่สูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบันที่ปรับลดลงจากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน และเพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท อย่างมีประสิทธิภาพจากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทในปัจจุบัน
วันนี้หุ้น BCP บวกแรงมากถึง 4%
... แต่ทั้งนี้ราคาหุ้นของ BCP ก็ลงมามากจากราคาสูงสุดที่ 42 บาท ลงมาที่ 24 บาท เทียบเท่ากับราคาของปี 2555
ดูผลประกอบการของ BCP ก็โตดี รายได้่ก็โต หุ้นก็ซื้อคืนแล้ว นักลงทุนยังคาดหวังอะไรอีก ?
ผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของ BCP ที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 370 ล้านบาท ลดลงมากถึง 80% ในขณะงวด 9 เดือน เหลือเพียง 1.12 พันล้านบาทด ลดลง 72% โดยสาเหตุหลักมาจาก "การขาดทุนสต๊อกน้ำมัน" มากถึง 1.16 พันล้านบาท !!!
.. นอกจากนี้ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีรายได้ลดลงเพราะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ทั้งนี้ปริมาณการขายไฟเพิ่มมากขึ้นจากการ COD เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า ลมลิกอร์ และเริ่มรับรู้ผลดำเนินงานโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว
BCP ชี้แจงว่าบริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเอทานอลเพิ่มเป็น 8 แสนลิตรต่อวันจากเดิมที่ 6 แสนลิตรต่อวัน น่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/63 โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่มีนโยบายให้ปรับมาใช้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานแทนแก๊สโซลีน
โครงการเหมืองแร่ลิเทียมของ BCP ในอาร์เจนตินา จะเริ่มรับรู้รายได้กลางปี 63 โดยบริษัทถือหุ้น 15%
บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการ Bio Hub ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างดูสถานที่ จัดทำงบประมาณ และศึกษาโครงการต่างๆ น่าจะชัดเจนช่วงเดือนมกราคมปี 2563
ผลการดำเนินงานของ BCP ไตรมาส3/62 และงวด 9 เดือน
ที่มาภาพ : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
รายได้ของ BCP เป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 1.51 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 4.15 พันล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 1.45 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 4.77 พันล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1.75 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 5.77 พันล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 1.94 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 2.46 พันล้านบาท
ปัจจุบัน BCP เทรดกันที่ P/E 8.1 เท่า และ P/BV 0.77 เท่า มีปันผลประมาณ 5.8%
ดูๆแล้ว รายได้ก็โต การลงทุนก็มีแผนงานในอนาคต หุ้นก็ซื้อคืนแล้ว ถึงแม้ไตรมาส 3/62 อาจจะสะดุดไปบ้าง สิ่งที่ผิดคาด คือ นักลงทุนคาดหวังมากเกินไป เลยทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง
จากนี้ยังต้องจับตาดูกันต่อไปครับ ... ใครสนใจต้องศึกษาเพิ่ม