ทางเลือกการลงทุนในภาวะดอกเบี้ยขาลง
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ‘ไทยยูเนี่ยน’

"สภาวะดอกเบี้ยขาลงแบบนี้ เราควรลงทุนอย่างไรดี..." หุ้นกู้ด้อยสิทธิของไทยยูเนี่ยน น่าสนใจระดับหนึ่ง

เป็นอย่างไร ผลตอบแทนเท่าไร แล้วทำไมเราต้องลงทุน วันนี้เราจะมาไขความลับกันครับ

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีชื่อย่อว่า TU จัดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในกลุ่ม SET50 และ SETWB (SET Well-Being Index: ดัชนีที่คัดเลือกธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ โดยการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้มีผลต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ นำมาสู่การสร้างรายได้แก่คนในประเทศ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย)

ไทยยูเนี่ยน ซึ่งเปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี เป็นผู้ผลิตปลาทูน่าบรรจุกระป๋องอันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอาหารทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ถึง 14 แบรนด์ ดังนี้

 

แบรนด์ในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋อง หรือ ซาร์ดีนกระป๋อง ซีเล็ค (SEALECT), อาหารทานเล่น ฟิชโช (Fisho) และโมโนริ (Monori), อาหารทะเลคุณภาพสดใหม่ คิวเฟรช (Qfresh), เคาน์เตอร์อาหารทะเลธรรมชาติ ซีฟู้ด

 

แบรนด์ในต่างประเทศ
ได้แก่ แบรนด์ระดับโลก อย่าง John West แบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์,  Petit Navire และ Parmentier แบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องชั้นนำของประเทศฝรั่งเศส,  Mareblu ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในประเทศอิตาลี,  Rügen Fisch ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปในประเทศเยอรมัน,  Chicken of the Sea  แบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องอันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา และ Genova ผลิตภัณฑ์ทูน่าระดับพรีเมียมในตลาดสหรัฐอเมริกา รวมถึง King Oscar แบรนด์ชั้นนำซาร์ดีนอันดับ 1 ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ และออสเตรเลีย

 

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง Bellotta และ Marvo  อีกด้วย

 

ไทยยูเนี่ยน ดำเนินการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และรับจ้างผลิต ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น มีอนาคตที่มั่นคง และยั่งยืน โดยในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนมียอดขายกว่า 133,000 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์ในประเทศไทยนั้นเป็นเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมด

 

 

ไทยยูเนี่ยนยังให้ความสำคัญด้านนวัตกรรม (Innovation) โดยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมตั้งแต่ปี 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ด้านกระบวนการผลิต ด้านบรรจุภัณฑ์ หรือการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และด้านความยั่งยืน (Sustainability)

 

ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนยังสามารถคว้าอันดับ 1 ผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry 2 ปีติดต่อกันในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) และปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยมี SeaChange® หรือกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนเป็นตัวขับเคลื่อนความยั่งยืนของบริษัทในกลุ่มทั่วโลก

 

ในด้านฐานะการเงิน ไทยยูเนี่ยน มีสินทรัพย์กว่า 140,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกของปี 2562 มีรายได้ 61,583 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 2,787 ล้านบาท

 

ส่วนกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศเพิกถอนสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (GSP) สำหรับสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากประเทศไทย ที่จะมีผลบังคับใช้ใน 6 เดือนข้างหน้านั้น เนื่องจากสินค้าอาหารทะเลและอาหารสัตว์ที่ไทยยูเนี่ยนจำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ GSP ดังนั้นมาตรการที่ประกาศในครั้งนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยนแต่อย่างใด

 

ไทยยูเนี่ยนกำลังจัดโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป ในวงเงิน 4 พันล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) อีก 2 พันล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 6 พันล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน คาดว่าจะออกเสนอขายช่วงวันที่ 26-28 พฤศจิกายนนี้ โดยได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ และ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

 

ถ้าถามว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของไทยยูเนี่ยน น่าสนใจตรงไหน?

อย่างแรก ในภาวะที่ทั่วโลกต่างปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงประเทศไทยที่ทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาลง การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ 5% ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง ในระดับ A- และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง ในระดับ A+ ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเราคงไม่สามารถลงทุนในหุ้นกู้ทั่วไปที่มีระดับความน่าเชื่อถือเดียวกัน แล้วได้ดอกเบี้ยสูงขนาดนี้แน่ๆ แต่ที่ TU ให้ได้เพราะตราสารนี้คือ “หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน”  

 

นอกจากนี้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนชุดนี้ของบริษัทได้มีการกำหนดเงื่อนไขในข้อกำหนดสิทธิให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 32 (TAS32) ใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2563 แล้ว  พร้อมทั้งบริษัทได้ปรึกษากับผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้วว่า หุ้นกู้ชุดนี้จะถูกนับเป็นทุนทางบัญชีได้ และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อโดยทริส เรทติ้ง ยังได้นับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทนี้เป็นทุนได้  50% ในช่วง 5 ปีแรก ในมุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออีกด้วย

 

 

อย่างที่สอง ไทยยูเนี่ยนมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกสูง ด้วยสินค้าที่มีความหลากหลายและจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วโลก ทำให้สามารถบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

 

ผลตอบแทนของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ในอัตราที่จูงใจ ประกอบกับบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่มีความมั่นคง เติบโตอย่างยั่งยืน นั่นคือคำตอบที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

 

ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสาขาของสถาบันการเงินต่อไปนี้

- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ยกเว้นสาขาไมโคร โทร. 1333
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 และ
- บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-305-9442

อย่างไรก็ดี การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

หมายเหตุ

- บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ

- การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน