Growth หรือที่นักลงทุนชอบเรียกกันติดปากว่า "อัตราการเติบโต" เวลาเราพูดถึงสิ่งนี้ มักจะอ้างอิงได้หลายแบบเช่น ยอดขาย รายได้ กำไร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะอ้างอิงถึงการเติบโตของรายได้มากกว่า
Net Margin หรืออัตรากำไรสุทธิ เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงคุณภาพของกำไรที่บริษัททำได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน รายได้เข้าบริษัท 100 บาท เมื่อหักลบต้นทุนและค่าบริหารหมดแล้วจะเหลือกำไรสุทธิ 15 บาท เท่ากับว่าบริษัทนั้นมี Net Margin ที่ 15% ตัวเลขนี้ยิ่งมากยิ่งดี แต่นักลงทุนบางส่วนอาจจะกลัวว่าบริษัทมีกำไรพิเศษ หรือรายได้จากอื่นๆจะทำให้ Net Margin คลาดเคลื่อนมากกว่าปกติ บางคนจึงหันไปใช้ EBITDA Margin แทนเพื่อสะท้อนถึงคุณภาพของกำไรแท้จริง
อัตราการเติบโตเป็นสิ่งที่นักลงทุนชอบดูกันมากที่สุด และเป็นตัวกำหนดถึงมูลค่าความถูกแพงของหุ้่นด้วย ถ้าบริษัทไหนไม่เติบโต นักลงทุนก็จะให้มูลค่าไม่สูงมาก อาจจะให้ P/E ที่ 10 เท่า และ P/BV ที่ 1 เท่า แต่ถ้าบริษัทไหนมีการเติบโตในแง่ของรายได้ นักลงทุนจึงให้มูลค่าสูงสามารถขยับไปเล่นกันที่ P/E 30 เท่า หรือ P/BV 5 เท่า ได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผู้บริหารหลายๆบริษัทพยายามบอกตัวเลขของการเติบโตสูงๆไว้ก่อน เช่น เติบโต 30% - 40% สิ่งที่นักลงทุนต้องคิดคือ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
บริษัทขนาดใหญ่ จะหวังเติบโตมากกว่า 10% เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก อาจจะทำได้บางปี แต่พอปีถัดไปก็จะเหลือ 5-6% ไม่สามารถรักษาการเติบโตแบบเยอะๆได้ตลอดไป แต่สิ่งหนึ่งที่บริษัทใหญ่มีคือความมั่นคงและการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
บริษัทขนาดเล็ก โตเร็ว แต่ก็เปราะบาง บริษัทสามารถเติบโตระดับ 40% ติดต่อกัน 2-3 ปี ได้อย่างสบายๆ แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่าการรักษาการเติบโตในระดับนั้นให้คงอยู่ในระยะยาวเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเราจะเห็นบางปีบริษัทปรับลดการเติบโตลงเหลือ 15%-20% ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของธุรกิจ หุ้นขนาดเล็กแต่โตเร็ว แต่กำไรที่ทำได้ก็สามารถลดลงอย่างรวดเร็วได้เหมือนกัน
ดังนั้นการคาดหวังว่าให้บริษัทเติบโต 30% ในระยะยาวแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก และเราก็ไม่ควรนำตัวเลขในอดีตมาคาดหวังว่าบริษัทนั้นๆจะยังเติบโตเท่าเดิม
แล้วอย่างนั้นเราควรจะทำอย่างไรดี ...
คำตอบ คือ Net Margin การเพิ่มขึ้นขึ้นอัตรากำไรสุทธิเป็นเรื่องที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
ถ้าบริษัทมีรายได้ 100 บาท มีกำไรสุทธิ 2 บาท (Net margin = 2%) ถ้าบริษัทค่อยๆปรับให้ Net margin เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย หาตลาดใหม่ มีโมเดลธุรกิจใหม่ แม้ยอดขายจะไม่เติบโตสูงมาก แต่กำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก สุดท้ายในระยะยาวแล้ว บริษัทก็จะเติบโตในระยะยาวได้ด้วยเช่นกัน
แล้วตัวเลขไหนสำคัญกว่ากัน ?
สำคัญทั้ง 2 ตัว แต่นักลงทุนไม่ควรคาดหวัง "การเติบโตในอัตราสูง" อีกหลายปีข้างหน้าเพราะเป็นการเติบโตที่ "เป็นไปไม่ได้" ทั้งนี้ในเรื่องของ Net Margin เพิ่มขึ้นในระยะยาวก็เป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามอยู่ตลอดเวลาครับ