สร้างความ "เซอรไพรส์" ให้กับตลาดอย่างมากสำหรับหุ้น ADVANC ที่ตอนนี้นักลงทุนยกย่องให้เป็น "หุ้นหลบภัย" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ราคาหุ้นแทบไม่ลงทำให้เกิดการคาดเดาไปว่าผลประกอบการออกมาน่าจะดีมากๆ แล้วก็ไม่ผิดไปจากคาด ADVANC เติบโตสูงถึง 28% เลยทีเดียว นำโดยธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านที่เติบโตสูงมาก
ADVANC เผยกำไร Q3/62 ที่ 8.67 พันลบ. โต 28% หนุนงวด 9 เดือนแตะ 2.4 หมื่นลบ. รับรายได้ระบบรายเดือน - อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ย้ำปีนี้ตั้งเป้ารายได้ เติบโตแบบ mid-single digit ส่วน EBITDA margin ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 43.1% งบลงทุน 20,000 – 25,000 ลบ.
สำหรับธุรกิจสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีจำนวนผู้ใช้บริการเติบโต 2.2% เพิ่มเป็น 41.6 ล้านคน โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นการย้ายจากระบบเติมเงินไปเป็นรายเดือน
แต่ที่น่าสนใจ คือ ธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้าน (AIS Fibre) ที่มีฐานลูกค้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากถึง 38% แต่ทั้งนี้ด้วยการให้บริการแบบแพ็กเกจที่รวมหลายบริการ (คือมีทั้งเน็ตบ้านด้วย เน็ตมือถือด้วย ในราคาพิเศษ) คิดเป็น 28% ของฐานลูกค้าไฟเบอร์ เป็นสาเหตุทำให้ ARPU ลดลงเพราะต้องแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้กับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
ในแง่ของรายได้ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีรายได้เติบโตเพียง 4.3% ในส่วนของธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านเติบโต 29% ทำให้ในปัจจุบันมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 930,700 ราย และคาดว่าจะแตะ 1 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
เป้าหมายของบริษัท คือการเดินหน้าให้บริการ 5G และความเร็วไวไฟสาธารณะในชื่อ AIS Super WiFi อีกทั้งพร้อมเดินหน้าขยายโครงข่ายเทคโนโลยี Massive MIMO และพัฒนาโครงข่ายให้มีอัตราการตอบสนองได้เร็วขึ้น และมีค่า Latency ต่ำเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ 5G
ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้น ADVANC จริงๆ
===========
กลับมามองที่นักวิเคราะห์กันบ้าง ว่าพวกเขามองเรื่องนี้กันอย่างไร ...
บล. หยวนต้า วิเคราะห์ว่า กำไรดีอย่างที่ตลาดคาด ARPU ยังเป็นขาขึ้น และความกังวลว่าจะเกิดการประมูล 5G อันดุเดือดเหมือนครั้งที่แล้วไม่น่าจเกิดขึ้นอีก ให้ราคาเหมาะสม 260 บาท แนะนำ "ซื้อ"
บล.ฟิลลิป มองว่า กำไร Q362 ออกมาเติบโตทั้ง y-y และ q-q หนุนโดยธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านที่เติบโตขึ้นตามฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีข่าวดีในเรื่องของการระงับข้อพิพาทกับ TOT ทำให้สถานการณ์ของหุ้นคลายกังวลไป แนะนำ "ทยอยซื้อ" ให้คำแนะนำ 248 บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่ากำไรเติบโตชัดเจนและจะยังเติบโตได้อีกจนถึงไตรมาส 4 ปี 2563 อย่างไรก็ตามการทำ 5G จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรในปีที่เริ่มทำ ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าน่าจะเกิดในครึ่งปีหลังของปี 2563 ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องกังวล คือการแข่งขันกลับมารุนแรง และประมูลคลื่นใหมที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 260 บาท .
===========
ก็ถือว่าประทับใจทั้งในแง่ของผลประกอบการและราคาหุ้นที่ "ไม่ลง" ไปตามตลาด อีกทั้งการเติบโตก็ชัดเจนนำโดยธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้าน และการพยายามนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้คนหันมาใช้บริการมากขึ้น นักวิเคราะห์มองว่ามีการเติบโตที่ดีไปจนถึงไตรมาส 4 ปี 2562 แต่เรื่องของการประมูล 5G ยังไม่ชัดเจน
นักลงทุนต้องติดตามประเด็นนี้กันต่อไปครับ ...