ถ้าถามว่าประเทศใดเป็นผู้นำทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ผมคิดว่าประเทศไทยเราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะอะไรเหรอครับ ก็เพราะว่าประเทศเรามีอารมณ์ขันและสอดแทรกความคิดน่ารักๆ ในหลายๆ อย่าง

ลองดูที่หลังรถบรรทุกหรือรถเมย์สิครับเราจะเห็นข้อความที่ทำให้เราหายหงุดหงิดเวลารถติด เช่น “เมาไม่ขับ เพราะกลับไม่ถูก” รถติดคือมรดกไทย อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน อาหารของเราก็สร้างสรรค์ อย่างเช่น ขนมลูกชุบของเรา ก็ทำได้หลายรูปแบบ ทั้งพริก ทั้งมะละกอ รูปสัตว์ต่างๆ หลายครั้ง ที่ผมเห็นความคิดไทยๆ ของเราและก็อดชื่นชมไม่ได้

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมว่าเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเราเลย ก็คือ ศาลพระภูมิ ที่ประดิดประดอย มีความสวยงาม ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และความเชื่อ ที่แปลกมากก็คือเรานำมาลายมาถวาย ถือว่าเป็นการ ผสมผสานสัตว์จาก แอฟฟริกา สู่วัฒนธรรมไทย อย่างได้ลงตัว สิ่งเหล่านี้แหละครับที่บ่งบอกได้ถึงความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย “แต่ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือเราจำทำยังไงที่จะเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์มาเป็นเงิน”

คำว่า “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” นั้นแปลง่ายๆ ก็คือ “ยุคของการสร้างมูลค่าที่เกิดจากแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้การสร้างสรรค์งานและการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม การสั่งสมความรู้ของสังคมและนวัตกรรมสมัยใหม่”

ซึ่งจริงๆ แล้วเราผ่านมาหลายยุคที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นยุคอุตสาหกรรม ซึ่งใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแรงงาน จนก้าวเข้าสู่ยุคของ Information Technology และ การสื่อสาร ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ได้อย่างไม่จำกัด หลายๆ ประเทศพยายามใช้ทรัพยากรในด้านต่างๆ ให้น้อยที่สุดซึ่งอาจเป็นเพราะบางประเทศไม่เหลือทรัพยากรใหใช้ แรงงานก็แพงขึ้นจึงต้องหาวิธีที่จะต้องใช้ทรัพยากรที่น้อยลง

ซึ่งบางประเทศผู้นำเศรษฐกิจหลายประเทศ จึงหันมาส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ จากสินค้าที่เป็นชิ้นเป็นอันเริ่มเข้ามาสู้สินค้าและบริการที่เน้นแนวคิด แนวปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการผลิตสินค้าที่ต้องต่อสู้ด้วยราคาเป็นหลักนั่นเอง

“โดยสิ่งที่สำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ก็คืองานที่เกิดจากปัญญาที่สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการได้โดยที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากนัก” ย้อนกลับไปในอดีต เรามักคุ้นเคยกับคำว่า หน้าตาหล่อยังกับญีปุ่น แต่ตอนนี้กลายเป็นหล่ออย่างกับดาราเกาหลี เพลงต่างๆ ก็ฟังเพลงเกาหลี ชอบศิลปินเกาหลี กินอาหารเกาหลี เครื่องสำอางเหาหลี”

Reference : ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ (Startup เสี่ยยุคใหม่)