SCC ประกาศงบไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเอาไว้ โดยเหลือเพียง 6.2 พันล้านบาท ลดลง 35% จากปีก่อนหน้า และ 12% จากไตรมาสก่อน
รายได้ที่หดหายก็มาจากสเปรดปิโตรเคมีที่แย่เอาแย่เอา ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นตัวถ่วงสำหรับกิจการของ SCC อย่างมาก ในส่วนของยอดขายปูนนั้นทางบริษัทก็ได้ปรับคาดการณ์ลงมาแล้ว
เรียกได้ว่าแทบจะทุกส่วนธุรกิจของปูนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก จะมีก็แต่ส่วนแพคเกจจิ้งที่ยังโอเคอยู่
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาหลังจากปรับตัวลงหลังงบออก คาดว่าเป็นการ buy on fact เพราะราคาปรับลงมารับข่าวผลประกอบการไปก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ อยากให้ระวังว่า การ buy on fact ที่เกิดขึ้นนี้ อาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เพราะต้องไม่ลืมว่า งบที่ออกมาก็แย่กว่าที่คาดไว้ และนักวิเคราะห์ก็เริ่มทยอยปรับประมาณการในปีถัดไปของปูนใหญ่ลงมากันด้วยหลังจากที่เห็นงบ
ลาสุดมีโบรกแห่งหนึ่งหั่นเป้าหมายลงรวดเดียว 40 บาท แต่ก็ยังอยู่สูงกว่า 400 บาทนะ
แม้ราคาจะลงมามาก แต่ timing อาจจะยังไม่ใช่ก็ได้ จริงๆแล้วเราสามารถกำหนดเวลาการเข้าซื้อหุ้น SCC ได้ไม่ยากนัก นั่นคือ รอให้ธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มฟื้นตัว ส่วนธุรกิจปูนนั้นน่าจะอ่อนตัวลงตามการปรับตัวเลขการเติบโตของ GDP ลงเช่นกัน
นี่นับเป็นหุ้นใหญ่ตัวแรกที่มีธุรกิจหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งผลประกอบการที่ออกมาแย่กว่าที่คิดขนาดนี้ ก็อาจทำให้เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้บ้าง กับงบของอีกหลายบริษัทที่จะตามออกมา โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีตัวอื่นๆ
หลังจากงบไตรมาส 3 ออกมาครบ ก็คงจะเฉลยกันเสียทีว่า ตกลง EPS ของตลาดหุ้นไทยมันควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ ที่ปรับลงมาเหลือ 90 ปลายๆนั้น ยังสูงไปหรือไม่?
และที่บอกว่า PE ของตลาดหุ้นไทยไม่ได้แพง เอาจริงๆแล้ว ตกลงมันแพงหรือว่าไม่แพง?
ที่้มา : Wattana Stock Page