"แมลงสาบไม่เคยมีตัวเดียว"
ถ้ากล่าวถึงในตลาดหุ้นแล้ว หุ้นตัวไหนที่มีข่าวร้าย หรือราคาหุ้นลง นักลงทุนจะรู้ได้เองว่าหุ้นตัวนั้นจะต้องมีข่าวร้ายอะไรซ่อนอยู่แน่นอน และข่าวร้ายของหุ้นตัวนั้นๆมักจะมีมาอยู่เรื่อยๆ ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของจีนก็จะเป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน
ในช่วงนี้เศรษฐกิจจีนเจอกับปัญหาข่าวร้ายค่อนข้างมาก จากเมื่อก่อนที่เคยถูกวางตำแหน่งว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง รัฐบาลอัดฉีดเงินมากเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลก เมื่อไม่นานมานี้จีนมักจะตกเป็นเป้าเรื่องของการขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และเหตุการณ์ปั่นป่วนตลาดหุ้นทั่วโลกอย่าง Trade War
และล่าสุดคาดกันว่าเศรษฐกิจจีนจะเจอกับสภาวะของ Hard landing ที่จะเป็นปัญหาของเศรษฐกิจจีนรอบใหม่ แต่การสะดุดของจีนรอบนี้อาจจะสะเทือนไปทั่วโลกด้วย
อะไรคือสภาวะ Hard landing ?
แล้วปัญหาของจีนรอบใหม่เป็นอย่างไร ?
สภาวะ Hard Landing คือสภาวะที่ประเทศหนึ่งๆเติบโตดีมาโดยตลอด แต่อยู่ดีๆก็โตลดลงอย่างเร็ว เช่น ครั้งหนึ่งประเทศจีนเคยเติบโตในระดับ 9% แต่อยู่ดีๆก็โตเหลือเพียง 8% เราจะอธิบายสภาวะครั้งนี้ว่า Hard Landing
ในรายงาน World Economic Outlook คาดกันว่าจะมีการปรับลดประมาณการของเศรษฐกิจจีนลง จากที่เคยคาดว่าจะโตประมาณ 6.1% ให้เหลือเพียง 5.8% ในปี 2020 และต่ำกว่าปี 2018 ที่ขยายตัวถึง 6.6%
ทางเว็บไซด์ MarketWatch ชี้แจงว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศจีนเติบโตช้าประกอบไปด้วยหลายปัจจัย เช่น การขึ้นกำแพงภาษีสินค้าที่มาจากจีน การบริโภคของประชากรโลกที่ลดลง และปัจจัยสำคัญ คือ Trade War ที่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน เป็นแค่การ "เตะถ่วง" ออกไปเท่านั้นของ 2 ประเทศ ซึ่งอาจจะกลับมาทะเลาะกันอีกเมื่อไรก็ได้
คาห์น เวนเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบัน High Frequency Economics แสดงความเห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนระดับ 5-6% ถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ ไม่มีความน่ากังวลอะไร เพราะค่าเฉลี่ยของ GDP โลกน่าจะอยู่ระดับ 3% ในขณะที่จีนจะโตได้ถึง 5.8% ยังถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย ดังนั้นจึงมองว่า ไม่ได้น่ากังวลหรือวิตกอะไร ...
เจมส์ แม็คคอร์แมก นักวิเคราะห์ของสถาบันฟิทซ์เรตติ้ง วิเคราะห์ว่าภาวะ Hard Landing จะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเศรษฐกิจ และจะตามมาด้วยปัญหาต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาการว่างงาน การเลิกจ้างงาน คนจีนจะตกงานจำนวนมาก การบริโภคลดลง เมื่อจีนบริโภคลดลง การส่งออกของประเทศต่างๆก็จะลดลงด้วย แล้วจะตามมาด้วยวิกฤตของเศรษฐกิจโลก
"พูดง่ายๆ คือ จีนจะเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่" นั้นเอง ...
เฮ้ออ ... เอาเป็นว่า ยังไงก็ต้องเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
แต่ถ้าใครอยู่ในตลาดหุ้นหรือติดตามข่าวเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน อาจจะรู้สึก "ชินชา" เพราะเราแทบจะได้ยินทุกปีเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในปีถัดๆไป ดังนั้นการคาดการณ์ครั้งนี้ก็อาจจะเหมือนครั้งที่ผ่านมาๆ กล่าวคือ ไม่มีอะไรนั้นเอง ...
จะมีหรือไม่มี เราไม่รู้ แต่สิ่งที่รู้แน่ชัด คือ เราจะเตรียมตัวรับมือกับปัญหานี้อย่างไร ... ใช่ไหมครับ ?
--------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.marketwatch.com/story/things-arent-looking-great-for-chinas-economy-and-it-may-only-be-getting-worse-2019-10-21
https://edition.cnn.com/2019/10/17/economy/china-gdp-economy-trade-war/index.html
https://thestandard.co/chinas-economic-growth-could-fall-below-6percent-in-2020/
https://www.ryt9.com/s/iq03/505203