วันนี้ บรรยากาศ "บัณฑิตจบใหม่" อบอวลไปทั่วจุฬาฯ

ได้เห็นบัณฑิตและญาติสนิทมิตรสหาย ถ่ายรูป ถือดอกไม้ ถุงของขวัญ เดินกันเต็มมหาวิทยาลัย หน้าตายิ้มแย้ม แฮปปี้

ผมเองก็ดีใจไปกะเค้าด้วย

วันเรียนจบการศึกษา นอกจากเป็นหนึ่งในหลักไมล์ชีวิต หลังจากเรียนหนังสือมาเกือบ 20 ปี

ยังเป็นวันที่บัณฑิต จะได้ตำแหน่ง CEO โดยสมบูรณ์ ... "เป็น CEO ของชีวิตตัวเอง"

นับจากนี้ไปอีกหลายสิบปี ชีวิตของคุณจะพบกับความรุ่งเรือง ร่ำรวย หรือ ตกต่ำ ดำดิ่ง ก็ขึ้นอยู่กับ "CEO" คนนี้แหละ

ผมเองในฐานะที่เรียนจบมา 23 ปีแล้ว ทำเรื่องดีๆมาก็มาก พลาดเรื่องโง่ๆมาก็เยอะ
.
.
=====================
มองบัณฑิต...แล้วคิดย้อนถึงตัวเอง
=====================
.
.
ถ้าผมย้อนเวลา กลับไปหาตัวเองตอนเป็น "บัณฑิตจบใหม่วัย 22"... ตัวผมในวัย 45 จะไปบอกว่า
.
1. การเริ่มต้นทำงานก็เหมือนกับการวิ่งมาราธอน เส้นทางมันยาวไกลร่วม 40 ปี ถ้าออกตัวแรงไป แป๊บเดียวหมดไฟ ... ออกตัวเฉื่อยไป ก็ไม่ก้าวหน้า

+++สมดุลย์เป็นเรื่องสำคัญ+++
.
.
2. ยุคนี้ อย่าไปยึดติดเรื่องคณะหรือสาขาที่เรียนมาก มีงานอะไรน่าสนใจและเราพอทำได้ แม้ไม่ใช่สาขาที่ร่ำเรียนมา ก็จงรับมาแล้วพยายามทำเต็มที่ ยิ่งถ้าเจ้านาย รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน หยิบยื่น "โอกาส" ให้ จงอย่าปฏิเสธ

+++โอกาสที่ดีงาม ค่ามากกว่าทองคำ+++
.
.
3. รายได้ของเด็กจบใหม่แต่ละเดือน จะหมดเกลี้ยงอย่างไว จากการนัดเพื่อนกินดื่ม ต้นทุนทำความรู้จักแฟน(คนแล้วคนเล่า กว่าจะได้แต่ง) ไหนจะ มือถือ ท่องเที่ยว อาหาร ปาร์ตี้ ฯลฯ จงระวังการใช้จ่าย บัตรเครดิต ช้อป 0% ให้มากถึงมากที่สุด

+++การเป็นหนี้บัตรเครดิตมากๆ ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตทำงาน...สามารถฆ่าคุณทั้งเป็นได้เลย+++
.
.
4. โอกาสที่จะออมเงิน หลังจากใช้จ่าย...แทบไม่มี เพราะจบใหม่ใจมันร้อน เงินมีที่ไปเสมอ ดังนั้น Pay Yourself First !… จงออมก่อน 10%-15% ทุกเดือน แล้วค่อยใช้ ... คุณไม่ตายหรอก ก็ทีภาษีเค้ายังหักก่อนให้เราใช้ ก็ไม่เห็นเป็นไร... ออมให้นาน และต้องออมในหุ้นให้ถูกวิธี อันดับ 1 คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จงออมให้เต็มสิทธิ หรือถ้าคิดไรไม่ออกให้บอก RMF SET50

+++ใครเริ่มก่อนโคตรได้เปรียบ+++
.
.
5. ถ้าคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว ชีวิตของคุณสำคัญยิ่งยวดกับคนข้างหลัง เพราะคุณเป็นโลกทั้งใบของใครบางคน และคุณก็รักคนๆนั้นหมดหัวใจ ...ไม่ต้องมาพิมพ์ลง Facebook หรือถ่ายรูปหอมแก้มอวดใครๆ.... แต่ จงซื้อประกันชีวิต

+++นี่คือคำมั่นสัญญาของความรักและการดูแล... แม้คุณไม่อยู่+++

6. ความรู้หลายอย่างที่มหาลัยไม่ได้เน้นสอน อาจจะพาชีวิตเราไปได้ไกลกว่าคนอื่น เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ความสามารถในการเล่าเรื่อง(presentation/ storytelling) ความรู้ในการลงทุน ทักษะผู้ประกอบการ ทักษะการใช้สื่อยุคใหม่ ฯลฯ จงเรียนรู้และทดลองทำสิ่งเหล่านี้อย่าหยุด

+++เชื่อหรือไม่ Skill บางอย่าง เผลอๆพาชีวิตคุณไปได้ไกลกว่าเรียนป.โทอีก+++
.
.
7. งานที่ดี คือ งานที่คุณมีความสุขและสร้างดุลยภาพของอัญมณีทั้งห้าได้ดี ได้แก่
"1.งาน 2.ครอบครัว 3.สุขภาพ 4.ความรัก 5.ความมั่งคั่ง"

เมื่อไหร่ที่คุณทำมันขาดสมดุลย์รุนแรง ธานอส เอ๊ย ทุกข์ตรม จะมา เมื่อสร้างสมดุลย์ระหว่าง 5 อย่างนี้ได้

+++ "ความสุข" จะสถิตย์อยู่กับท่าน+++
.
.
8. ถ้าใครเรียนจบแล้ว ยังไม่มีแฟน ยังไม่เคยมีแฟน และไม่มีวี่แววว่าจะมีแฟน คุณไม่ต้องกลัว ... โอกาสยังเปิดกว้างไม่ว่าหญิง ชาย หรือสายทางเลือก ... สถานที่พบรักมีหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตรสัมมนาในวิชาที่ชอบ, ออฟฟิศลูกค้า, หรือ งานเลี้ยงรุ่น (มัธยม, มหาลัย) ที่เหล่านี้จะสกรีนคนมาให้คุณแล้ว โอกาสที่ศีลเสมอกันมีสูงกว่า

+++ดีกว่าพวก ปัดไปเจอใน Tinder...เจอตอนเมาในผับ...หรือ หลังรถกะบะวันสงกรานต์+++
.
.
9. พ่อแม่ ดูแลเรามาตลอด ส่งเสียเลี้ยงดู อยู่ในกระบวนการจ่ายเงินจริง อย่างยากลำบาก ยาวนานกว่า 20 ปี จนกระทั่งเรามีวันนี้... นับจากนี้ไปเราจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างกายท่านทั้งสองจะถดถอยและแก่ชราลงไปเรื่อยๆ
ทว่า หัวใจรักลูกนั้น ไม่มีเสื่อมถอย ไม่หย่อนคล้อยตามกาล ภาพของลูกรักรับปริญญา กับภาพเด็กน้อยที่เพิ่งเกิด ล้วนกระจ่างแจ้งในความทรงจำ ถ้าพอทำได้... การโทรหาทุกวัน เจอกันทุกอาทิตย์ เป็นเรื่องสำคัญ

+++พ่อแม่ จะอวยชัยให้พรแก่ลูกเสมอ+++