งานสัปดาห์หนังสือใกล้เข้ามาแล้ว นักลงทุนควรหาซื้อหนังสือเล่มไหนดี นี้เป็นไกด์ไลน์สั้นๆครับหนังสือ 5 เล่มที่อยากจะนำเสนอสำหรับนักลงทุน
มีเล่มไหนบ้าง มาดูกันครับ ....
Credit ภาพ : www.shopat24.com
1.The Intelligent Investor : คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ถ้าถามว่าสุดยอดหนังสือการลงทุนคือเล่มไหน นักลงทุนพันธุ์แท้ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า The Intelligent Investor ที่แม้แต่วอเร็น บัฟเฟตต์ สุดยอดนักลงทุนระดับโลกยังยอมรับว่านี้คือสุดยอดหนังสือคลาสสิคของนักลงทุนที่จะต้องหามาอ่านให้ได่ในชีวิต เขียนโดยอาจารย์ของบัฟเฟตต์เอง คือ เบนจามิน เกรแฮม
.
== ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ==
- หนังสือมีความละเอียดมากเกี่ยวกับการวิเคราะห์หุ้นแบบเน้นมูลค่า
- มาครบ จัดเต็ม พร้อมกับกรณีศึกษาจำนวนมากช่วยให้เราเห็นภาพในการวิเคราะห์หุ้นมากขึ้น
- ฉบับแปลไทย โดยนักลงทุนเน้นคุณค่าที่เข้าใจถึงแก่นแท้จริงๆ อย่างคุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข ทำให้ภาษาที่ออกมา อ่านง่าย กระชับ และเข้าใจในการอ่านครั้งเดียว
- ในแต่ละบทจะมีการเขียนเชิงตั้งคำถามให้ผู้อ่านได้คิด วิเคราะห์ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา และจบบทด้วยการตอบคำถามที่เปิดในตอนแรก
== ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ==
- หนังสือมีความหนา ต้องใช้ระยะเวลาในการอ่านและทำความเข้าใจ
- ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีพื้นฐานในการวิเคราะห์หุ้นระดับหนึ่ง
- ไม่เหมาะกับนักลงทุนสายเทคนิค
- กรณีศึกษาเป็นเรื่องเก่าไม่ทันสมัย
Credit ภาพ : www.shopat24.com
2.One Up On Wall Street : เหนือกว่าวอลสตรีท
ถ้านักลงทุนมีโอกาสอ่านหนังสือการลงทุนเพียงเล่มเดียวในชีวิต ... นี้คือหนังสือที่อยู่ในลำดับต้นๆที่ต้องอ่านให้ได้ "เหนือกว่าวอลสตรีท" เป็นหนังสือที่กลั่นมาจากประสบการณ์ของผู้จัดการกองทุนระดับตำนานอย่าง Peter Lynch มุมมองการลงทุนในหุ้นที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆแล้วการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรที่ซับซ้อน แค่การสังเกตในชีวิตประจำวันและคำนวนคณิตศาสตร์ บวก ลบ คูณ หาร ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในการลงทุนได้แล้วโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญหรือกูรูคนไหนๆ
บอกได้คำเดียวว่า "ต้องอ่าน" ครับ
== ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ==
- กระชับ อ่านง่าย เข้าใจง่าย
- ฉบับภาษาไทยแปลโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ดังนั้นจึงเข้าใจ "มิติ" ของการลงทุนเน้นคุณค่า
- มีกรณีศึกษาจำนวนมาก ทำให้เห็นภาพชัดเจน
- มือใหม่สามารถอ่านได้ ไม่มีศัพท์เทคนิคที่ยาก
== ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ==
- ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนสายเทคนิค เพราะผู้เขียน "ไม่เชื่อ" ในเรื่องของเส้นกราฟ
- กรณีศึกษาส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของอดีตในปี 1980 - 2000 จึงไม่มีความทันสมัยสักเท่าไรนัก
- บางบทดูยืดเยื้อไปหน่อย
Credit ภาพ : www.gypsygroup.net
3.SAPIENS A BRIEF HISTORY OF HUMANKIND : เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ
เซเปียนส์เป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของมนุษย์โลก การวิวัฒนการของลิงที่กลายมาเป็นมนุษย์ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายแสนปีถึงเหลืออยู่เผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้น คือ เซเปียนส์ ในขณะที่เผ่าพันธุ์อื่นต่างสูญพันธุ์กันหมด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด เพิ่มเติมการคาดเดาไปบ้างในบางครั้งเป็นความเห็นส่วนตัว การได้อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนได้อ่าน "นิยาย" ประวัติศาสตร์มนุษยชาตอย่างไงอย่างนั้น และหนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่บิล เกตต์ แนะนำให้คนอ่าน อีกด้วย
ถึงแม้หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ใช่สายลงทุนซะทีเดียว แต่มีการพูดถึงวิวัฒนาการของระบบทุนนิยมและตลาดหุ้นในช่วงกลางของหนังสือ ทำให้เราเข้าใจว่าในอดีตก็มีการระดมทุนเพื่อกระทำบางอย่างไม่ใช่ในเชิงธุรกิจ แต่เป็นการระดมทุนเพื่อการล่าอาณานิคม กำจัดชนเผ่าอื่นๆ เพื่อครอบครองความเป็นใหญ่ ถือเป็นหนังสืออีกเล่มที่ห้ามพลาดครับ
== ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ==
- อ่านสนุก เหมือนได้อ่านวิวัฒนาการของมนุษยชาติ คนสมัยก่อนมีการพัฒนาอย่างไร และจุดเปลี่ยนของมนุษย์สายพันธุ์เซเปียนส์อยู่ตรงไหน
- สนุกมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการวิวัฒนาการของเงินตรา การระดมทุนเพื่อการล่าอาณานิคม หรือกำจัดชนเผ่าอื่น การเข้ามาของตลาดหุ้นวอลสตรีท
- หนังสือที่บิล เกตต์ แนะนำ ไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน
== ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ==
- เล่มหนา ใช้เวลาในการอ่าน
- หนังสือมีความลึกในเนื้อหา ต้องใช้สมาธิในการอ่าน
- บทแต่ละบทมีความเชื่อมโยงกัน ถ้าไม่เข้าใจบทก่อนหน้า อาจจะทำให้งงเกี่ยวกับเนื้อหาได้
- เนื้อหามีความซับซ้อน บางครั้งผู้เขียนมีการตั้งคำถามอย่างกว้างๆที่ไม่มีการตอบ ทำให้เมื่ออ่านจบแล้วยังค้างคาใจอยู่บ้างในบางบท
Credit ภาพ : http://www.liverich.co.th
4.Where Are the Customers' Yachts : ไหนละเรือยอร์ชของลูกค้า
เป็นหนังสือการลงทุนอีกเล่มหนึ่งที่เนื้อหาไม่เครียด ตลก(ร้าย)ปนขำ เรื่องวุ่นๆเกี่ยวกับตลาดหุ้นวอลสตรีท เขียนโดยคนที่เคยทำงานในวอลสตรีทหลายสิบปี เหมือนเป็นหนังสือ "เปิดโปง" กลโกงตลาดหุ้น ก็ไม่ผิดนัก
หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่วอเร็น บัฟเฟตต์ ให้คำนิยมไว้ว่า "เป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยมีมา" และ "ภูมิปัญญาและอารมณ์ขันของหนังสือเล่มนี้ ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ" ...
ชื่อของหนังสือมาจากนักท่องเที่ยวนายหนึ่งมายังนิวยอร์กและมองดูเรือยอชต์ของเหล่านายธนาคารและโบรกเกอร์อย่างชื่นชม เขาได้ถามขึ้นอย่างซื่อ ๆ ว่า ไหนล่ะเรือยอชต์ลูกค้า ? นายธนาคารคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมาแล้วบอกว่า "มันมีซะทีไหนละ" เป็นการบ่งบอกว่าไม่มีลูกค้าคนไหนมีปัญญาซื้อเรือยอชต์ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเชื่อฟังทำตามคำแนะนำของเหล่านายธนาคารและโบรกเกอร์อย่างเคร่งครัดก็ตาม
== ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ==
- เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ อ่านไม่นานก็อ่านจบได้
- เนื้อหาไม่ยาก ไม่ซับซ้อน สามารถทำความเข้าใจได้ทันที
- เนื้อหาของหนังสือเป็นกึ่งแซว กึ่งสอน กึ่งประชดประชัน อ่านแล้วไม่เครียด
- ไม่ใช่หนังสือแนวความรู้แบบวิชาการ จึงเหมาะทั้งมือใหม่และมือเก่าที่มีประสบการณ์แล้ว
- มีภาพการ์ตูนในแต่ละบท
== ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ==
- มุขตลกของฝรั่ง บางทีคนไทยอ่านแล้วไม่รู้สึกตลกตามไปด้วย ออกจะงงด้วยในบางครั้ง
Credit ภาพ : www.stock2morrow.com
5.ออมในหุ้น (ฉบับปรับปรุง)
ถ้าถามว่าหนังสือหุ้น "เล่มแรก" ที่ควรอ่านคือ ออมในหุ้น (ฉบับปรับปรุง) เขียนโดยภาววิทย์ กลิ่นประทุม นักเขียนชื่อดังที่ใช้ภาษาคมคาย และมีความทันสมัย อ่านรอบเดียวก็สามารถเข้าใจได้ว่าต้องการสื่อถึงอะไร หนังสือออมในหุ้น คือการเข้าใจถึงกลไกของตลาดหุ้นรูปแบบหนึ่ง เราจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "หุ้น" สร้างเครื่องจักรผลิตเงินให้เราได้อย่างไร และเราจะมั่งคั่งในระยะยาวได้อย่างไร จบท้ายด้วยข้อคิดที่ว่า ยุคสมัยนี้ถ้าใครไม่รู้จักเครื่องจักรผลิตเงิน หรือแม้แต่การทำเงินในขณะนอนหลับได้แล้วละก็ ลำบากตอนแก่อย่างแน่นอน
== ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ==
- อ่านง่าย ภาษาทันสมัย แต่ละบทมีความยาวไม่มาก
- เนื้อหาไม่ลึก ไม่มีสูตรการคำนวนหุ้นที่อ่านแล้วปวดหัว
- เหมาะสำหรับมือใหม่ เหมาะสำหรับการปูพื้นฐาน Mindset ในการลงทุนในหุ้น
- อ่านจบแล้วจะทำให้เข้าใจว่าการออมเงินที่แท้จริง คือการออมสินทรัพย์ ไม่ใช่การออมเงินสด หรือออมเงินไว้ในบัญชีธนาคาร มุมมองต่อหุ้นจะเปลี่ยนไป
== ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ==
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ซื้อขายหุ้นแบบฮาร์ดคอร์ เก็งกำไรเร็ว ซื้อขายตราสารอนุพันธ์
- หนังสือสำหรับมือใหม่ จึงทำให้การดำเนินเนื้อหาเป็นไปแบบช้าๆ
- เนื้อหาสั้นไปหน่อย บางบทอ่านจบแล้วยังมีคำถามคาใจอยู่