หลายคนติดตามราคาน้ำมันก็คงจะพอทราบว่า ราคาน้ำมันช่วงนี้แกว่งขึ้นลงด้วยปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การกลับมาเจรจากันระหว่างอิหร่านกับประเทศมหาอำนาจ

ราคาน้ำมันร่วงลงแรงสองวันติด จนกลับมาลงมาใกล้ระดับที่จะเกิดการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในซาอุแล้ว หลังมีข่าวว่า อิหร่านกล่าวว่าเขาพร้อมที่จะกลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อีกครั้ง ซึ่งอาจขอให้มีการปรับปรุงเงื่อนไขบางอย่าง

แล้วทำไมอิหร่านจึงต้องถูกคว่ำบาตร??

สิ่งที่เป็นความจริงเลยก็คือ อิหร่านมีการวิจัยพัฒนาในเรื่อง "การเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม" ซึ่งเหล่าประเทศมหาอำนาจเกรงว่า อิหร่านอาจจะมีจุดประสงค์ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องการหยุดอิหร่านเอาไว้

ในปี 2015 มีการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน กับประเทศมหาอำนาจ โดยมีการจำกัดให้อิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้มากที่สุดไม่เกิน 3.67%

แต่ก็มีการพบว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลง และมีศักยภาพในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมไปเกินกว่านั้นมาก ซึ่งสามารถนำมาใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว

ตัวเลข 3.67% คืออะไร เรามาดูกันต่อ

แร่ยูเรเนียมดิบ จะมี ยูเรเนียมออกไซด์ประกอบอยู่ราว 1% แร่ดิบจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการทางเคมีเพื่อแยกออกไซด์ออก จนได้เป็นผงแป้งสีเหลือง (yellowcake) ซึ่งมียูเรเนียมออกไซด์อยู่ถึง 80%

เมื่อได้เป็น yellowcake แล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการเสริมสมรรถนะ

นั่นเพราะ ยูเรเนี่ยมตามธรรมชาติ จะมี uranium-235 (ยูเรเนียมที่มี 235 อะตอม ประกอบไปด้วย โปรตอน 92 ตัว และนิวตรอน 143 ตัว) เพียง 0.7% เท่านั้น ซึ่งเจ้า uranium-235 นี่ล่ะที่เป็นยูเรเนียมที่สามารถแตกตัวและปลดปล่อยพลังงานในกระบวนการนิวเคลียร์ฟิสชั่นได้ง่าย

ส่วนที่เหลืออีก 99.3% จะเป็นยูเรเนียมแบบ uranium-238

กระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมนั้น คือการเพิ่มปริมาณของ uranium-235 ให้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

โดยจะนำเอา yellowcake หรือผงแป้งสีเหลือนั้นเข้าสู่เครื่องเหวี่ยง (หมุน) เพื่อให้ผงแป้งแปลี่ยนสถานะเป็นก๊าซ ที่เรียกว่า uranium hexafluoride

ก๊าซส่วนที่มี uranium-238 ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าจะถูกเหวี่ยงออกมาด้านนอก และเหลือก๊าซส่วนที่มี uranium-235 ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าอยู่ตรงกลาง

ในโรงงานเสริมสมรรถภาพนี้ จะมีเครื่องเหวี่ยงเหล่านี้ทำงานต่อเนื่องกันหลายตัว เมื่อผ่านไปแต่ละเครื่อง ความเข้มข้นของ uranium-235 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในกระบวนการดังกล่าวจะเกิดก๊าซขึ้นสองส่วน คือ ส่วนที่ถูกเสริมสมรรถนะเข้าไปแล้วที่จะสามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ก๊าซส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนที่ถูกทิ้งไปเป็นของเสีย

โดยปกติในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะใช้ยูเรเนียมที่มีการเสริมสมรรถนะขึ้นไปถึง 4% แต่สำหรับระเบิดนิวเคลียร์นั้น ยูเรเนียมจะต้องถูกเสริมสมรรถนะไปถึงระดับ 90%

เราอาจมีข้อสงสัยว่า แล้วอิหร่านเสริมสมรรถนะไปถึงระดับไหน ทำไมถึงต้องหยุดการพัฒนาของอิหร่าน คำตอบก็คือ มีหลักฐานว่า ที่เมือง Natanz อิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมไปได้ถึง 20% แล้ว

และที่เราต้องรู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ในกระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมนั้น งานหนักจะอยู่ในช่วงต้น นั่นหมายถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆจะถูกใช้ไปเกือบครึ่งในช่วงที่มีการเสริมสมรรถนะจาก 0.7% (แร่ยูเรเนียมตามธรรมชาติ) ไปถึง 4% แต่หลังจากนั้นจะง่ายขึ้น เร็วขึ้น

ซึ่งประเมินกันว่า การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านที่ทำไปได้ถึง 20% นั้น คิดเป็น 9 ใน 10 ส่วนของงานทั้งหมดที่จะเสริมสมรรถนะไปถึงระดับ 90% ที่จะทำให้อิหร่านมีศักยภาพในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว

ก็ขอนำเสนอเป็นข้อมูลให้อ่านกัน ส่วนความเห็นเรื่องความเหมาะสม ใครผิด ใครถูก อันนี้ไม่ขอออกความเห็นนะครับ

เพราะของบางอย่างมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าเรานำมันไปใช้ในทางที่ดี มันก็จะเป็นประโยชน์ แต่หากมันถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี มันก็จะเป็นโทษ

แต่ประเด็นคือ เราไม่รู้เจตนาของเขานั่นเอง