หุ้น NER หรือบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง
ลักษณะธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง
ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- โมเดลธุรกิจเป็นแบบ B2B คือบริษัทต่อบริษัท เน้นขายให้ผู้ผลิตยางรถยนต์ มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 26-40%
- สัดส่วนรายได้กว่า 60% มาจากขายให้เทรดเดอร์
- มาร์จิ้นส่วนใหญ่มาจากการซื้อถูก ขายแพง คือซื้อตอนจังหวะตกต่ำ ไปขายตอนสภาพอุตสาหกรรมดี
- บริษัทยางพาราสิ่งสำคัญ คือ ประสบการณ์ในการคาดการณ์สามารถซื้อถูกเพื่อมาขายแพงได้หรือเปล่า รวมถึงการบริหารสินค้าคงคลัง
- โดยทั่วไป บริษัทเหล่านี้คาดการณ์ยาก โดยเฉพาะกำไร-ขาดทุน แทบจะประเมินไม่ออกเลยว่าเป็นอย่างไร
- NER มี P/E 9 เท่า เรียกว่ากลางๆ โดยเฉพาะบริษัททำธุรกิจเหล่านี้ P/E ไม่ควรเกิน 10 เท่า
- P/BV 1.3 เท่า ROE 16.8 เท่า บ่งบอกว่าบริษัทอยู่ในวงจรขาขึ้น ถ้าเจอกับขาลงอาจจะเปลี่ยนแปลงไป
- หนี้สินต่อทุน 1.5 เท่า อยู่ในระดับสูง
- ราคาหุ้นปัจจุบัน มองว่าอยู่ในจังหวะ "เกือบพีค" อยู่ในช่วงของขาขึ้น
- มองว่า "Fair Price" ณ ราคาปัจจุบัน
- เป็นเพียวคอมโมดิตี้
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- สินค้าคอมโมดิตี้ แบบ 100%
- ในระยะยาวบริษัททำสินค้าคอมโมดิตี้แบบนี้ มาร์จิ้นมักไม่ค่อยดี 2.-3% มีความผันผวนสูง
- NER ไม่แน่ใจว่ามีความใหญ่ขนาดไหน ปริมารการผลิตเยอะไหม ตรงนี้ไม่แน่ใจ
- ลงทุนในบริษัทคอมโมดิตี้ ต้องลงทุนตอนเลวร้าย ปีที่ไม่ดี
- นักลงทุนที่จะลงทุนบริษัทเหล่านี้ ต้องเข้าใจวงจรของสินค้า เข้าใจบริษัท
- มองเป็นหุ้นคอมโมดิตี้
- มาร์จิ้นที่เห็น คิดว่าอยู่ในระดับสูงเกินไป ปีหน้าอาจจะลงบ้าง ปีต่อไปอาจจะลงได้อีก
- นักลงทุนต้องกลับมามองว่า ราคาเหมาะสมอยู่ที่เท่าไร ในระดับ P/E ไม่ควรเกิน 10 เท่า
------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model NER