ดูเหมือนว่าสงครามการค้า หรือ Trade War จะเริ่มมีความชัดเจนไปในทางบวกมากขึ้นหลังจากจีนโปรยยาหอม ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกา 16 รายการ และจะมีรายการเพิ่มเติมอีกในภายหลัง ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับในเชิงบวกมากขึ้น
กลับมาที่ประเทศไทย รัฐบาลไฟเขียวประกาศการตุ้นเศรษฐกิจเน้นไปที่กลุ่มท่องเที่ยวเป็นหลักภายใต้โครงการ "ชิม ช้อป ใช้" โดยหวังว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้
แล้วนักลงทุนอย่างเรา จะลงทุนอย่างไรดี ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ?
บล.เคทีบี วิเคราะห์ว่าการที่จีนมีการยกเว้นภาษีนั้น นับเป็นเจตนาที่ดีเพื่อที่จะผ่อนคลายปัญหาสงครามการค้า แต่นั้นก็ยังถือว่าไม่ดีที่สุด เชื่อว่า สงครามการค้าจะเริ่มผ่อนคลาย แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยง คือ ความคิดของทรัมป์จะดำเนินอย่างไรต่อไปเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
ดังนั้น แนะนำนักลงทุนให้ทำการบ้านในหุ้นที่เป็นโกลเบลเพลย์ หรือ อิงเศรษฐกิจ ได้แก่ หุ้นพลังงาน น้ำมัน ปิโตรเคมี และ ธนาคารพาณิชย์ นำโดย PTT IRPC SCC และ SCB
บล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์ว่าจีนพยายามจะจบสงครามการค้า แต่ยังคาดเดาท่าทีของอเมริกาไม่ได้ ตลาดจะดำเนินไปในรูปแบบของการเก็งกำไร แนะนำนักลงทุนเก็งกำไรตามน้ำไปก่อน และหาก SET ผ่าน 1680 จุดจะมีความมั่นใจมากขึ้น แนะนำหุ้น PTTGC PTT PTTEP
== สัญญาณของเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ==
บล.เอเซีย พลัส ตั้งข้อสังเกตว่า พันธบัตรรัฐบาลเริ่มขยับตัวสูงขึ้น ราคาทองคำปรับตัวลดลง เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าเม็ดเงินจากต่างชาติกำลังไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น แนะนำหุ้นเด่น คือ PTT AMATA และ JWD ตั้งเป้าดัชนีที่ 1,745 จุด ในระดับ P/E 17.3 เท่า
== กระตุ้นท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม "เด่นสุด" ==
บล. โกลเบล็ก วิเคราะห์ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เนื่องจากมีเม็ดเงินอัดฉีดกระจายลงไปในทุกๆ ภาคส่วน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น โดยมองว่าหุ้น TNP ค้าปลีกท่องถิ่นในเชียงรายและพาเยา ได้ประโยชน์สูงสุด รองลงมาเป็น ASAP ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์
หุ้น SPA ก็ถือเป็นอีกตัวที่น่าสนใจ และโรงแรม ERW ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
บล. กรุงศรี มองว่าเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวโดยตรง อาทิ AOT, MINT, CENTEL, ERW และ SPA โดยเราเลือก AOT, MINT และ ERW เป็น Top pick ของกลุ่ม
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำหุ้น Top Picks คือ AOT ให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท และ ERW ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท
ความกังวลระดับโลกดูเหมือนจะเป็นไปในทาง "ผ่อนคลาย" มากขึ้น แต่นักลงทุนยังต้องติดตามการ "ทวิต" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กันต่อไป สำหรับในประเทศไทยที่เศรษฐกิจดูเงียบพอสมควร อาจจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มท่องเที่ยว หุ้นที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่จะเป็นค้าปลีก และกลุ่มโรงแรม