หุ้นโรงพยาบาล ถือว่าลดความนิยมน้อยลงไปมากในหมู่นักลงทุน ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมานี้หุ้นโรงพยาบาลให้ผลตอบแทน "ต่ำกว่า" กุล่มด้วยเหตุผลที่ว่าหุ้นมีราคา "ค่อนข้างแพง" และปันผลไม่จูงใจให้เข้าไปซื้อ
ในปัจจุบัน ถามว่าหุ้นโรงพยาบาลยังคงมีเสน่ห์เหมือนในอดีตหรือไม่ ...
ก็ต้องตอบว่า "มี" แต่จำเป็นจะต้องคัดเลือกให้ละเอียดมากกว่าเดิม ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนขอเพียงแค่เป็นหุ้นโรงพยาบาลตัวไหนก็ขึ้นได้ทั้งหมด
คำถามสำคัญ คือ หุ้นโรงพยาบาลตัวไหนน่าสนใจ และโรงพยาบาลขนาดเล็กหรือเฉพาะทางตัวไหนบ้างที่เราควรนำกลับไป "ค้นคว้า" ต่อ
ในตลาดหุ้นไทย หุ้นโรงพยาบาลที่นักลงทุนนิยมเข้าไปซื้อขายมีทั้งหมด 9 ตัว คือ BCH BDMS BH CHG THG EKH PR9 RJH และ LPH ตัวไหนน่าสนใจที่สุด ?
บล.หยวนต้า วิเคราะห์ภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมว่า ครึ่งหลังของปี 2562 จะเป็นการฟื้นตัวของกลุ่มโรงพยาบาล และปี 2563 จะเป็นปีท้าทายที่มีความคาดหวังว่าจะสามารถปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมได้หรือไม่
ในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่มีผลประกอบการ "ไม่โดดเด่น" -- กำไรลดลง ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมถึงมีการปรับลดราคาค่าบริการของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัทลดลง ได้แก่ BH BDMS และ CHG
ส่วนของโรงพยาบาลขนาดกลาง - เล็ก มีผลประกอบการที่เติบโต นำโดย ...
EKH (เติบโต 73% เทียบปีต่อปี)
RJH (เติบโต 40% เทียบปีต่อปี)
PR9 (เติบโต 26% เทียบปีต่อปี)
จะเห็นได้ว่าโรงพยาบาลที่มีกำไรเติบโตโดดเด่น คือ EKH เนื่องจากมีการเปิดศูนย์โรคเฉพาะทางได้แก่ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก และการเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ส่วนโรงพยาบาล RJH เปิดศูนย์เฉพาะทางทั้งศูนย์หัวใจและศูนย์ผ่าตัดแผลเล็ก นโยบาลควบคุมต้มทุน ปลัดลดจำนวนพนักงาน
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง กลุ่มโรงพยาบาลจะกลับมาเติบโตได้ แต่จะเป็นลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่งมีค่าใช้จ่ายมาก และฐานกำไรที่สูงเมื่อหลายปีก่อนเมื่อเปรียบเทียบกับครั้งล่าสุด อาจจะทำให้ลดต่ำลง
บล.หยวนต้า ยังวิเคราะห์อีกว่า เห็นสัญญาณการแข่งขันที่รุนแรงนำโดย BH ที่มีการปรับลดค่าบริการลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด อีกทั้งยังมีการเพิ่มจำนวนเตียงของอีกหลายโรงพยาบาลทั้งรายเก่าและรายใหม่ เช่น TPP Healhcare (ขนาด 550 เตียง) RSU International (ขนาด 304 เตียง)
มองว่า "ยังไม่มีอะไรโดดเด่น" ในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง การหั่นราคา การมีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ยังแบกรับต้นทุนการลงทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้น และฐานกำไรที่มากในช่วงปีที่ผ่านมา จะยังเป็นความท้าทายของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามประเด็นบวกที่รออยู่ คือ การปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมจะเป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล
เลือกหุ้นที่เป็น Top Pick กลุ่มโรงพยาบาล คือ BCH (ราคาเป้าหมาย 21.8 บาท)
และโรงพยาบาลขนาดเล็กที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น คือ EKH (ราคาเป้าหมาย 8.5 บาท)
นี้ก็เป็นอีกแนวทางสำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนหุ้นโรงพยาบาล สรุปได้ว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แต่ไม่ได้โตมาก และกลุ่มนี้ยังต้องเจอกับความท้าทายทางการแข่งขันที่รุนแรง จำนวนโรงพยาบาลที่มีการขยายงานมากขึ้น ครับ
ขอบคุณบทวิเคราะห์ของ บล.หยวนต้า
อ่านฉบับเต็มได้ที่นี้ : https://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000372090/SectorUpdate_Healthcare%20060919.pdf