หุ้น SISB หรือบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง
ลักษณะธุรกิจ
ประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นหลักสูตรพื้นฐาน โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัท 5 โรงเรียน
ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- เป็นธุรกิจโรงเรียนเพียงแห่งเดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- ถ้าจำไม่ผิดในประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติอยู่ 180 คน มีจำนวนนักเรียนทีเรียนในนานาชาติประมาณ 5 หมื่นคน เป็นนักเรียนของ SISB ประมาณ 2400 คน
- โรงเรียน SISB มีความสามารถในการรับนักเรียนประมาณ 5 พันคน นั้นหมายความว่ายังสามารเพิ่มได้อีกเท่าหนึ่งจากที่มีอยู่
- สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ และรายได้ครัวเรือน
- แนวโน้มประชากรศาสตร์ คนที่อยู่ในวัยเรียน คือ 1-19 ปี ในปัจจุบันมีประมาณ 24% อีก 10 ปีข้างหน้าจะเหลือ 18%
- นั้นหมายความว่าแนวโน้มคนในวัยเรียนจะ "น้อยลง"
- แต่รายได้ครัวเรือนของคนไทยเพิ่มขึ้น หมายความว่ารายได้เพิ่มขึ้น ... รวยขึ้นนั้นเอง
- มี EBITDA ประมาณ 150-250 ล้าน มีกระแสเงินสดดี
- หุ้นมี P/E สูง นักลงทุนให้ความคาดหวังมากเกินไป
- บริษัทมีหนี้สินต่อทุนต่ำ สามารถลงทุนเพิ่มได้
- สินทรัพย์ของบริษัทสามารถสร้างรายได้เพิ่มอีกเท่าตัว
- จุดแข็งอีกอย่างคือ เป็นบริษัทด้านบริการ รับเงินก่อนค่อยเข้ามาเรียน ทำให้วงจรเงินสดดีมมาก
- มองเป็นหุ้นเติบโต
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ต้องยอมรับว่าโรงเรียนนานาชาติ มีความเป็นพรีเมี่ยมมากกว่า การบริการ การหานักเรียน การจัดการภายในโรงเรียน ถือเป็นความสามารถพิเศษของโรงเรียนนานาชาติ
- โดยภาพรวมแล้ว ธุรกิจโรงเรียน เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ยาก เพราะคู่แข่งเยอะ นอกจากแข่งกันเองระหว่างนานาชาติแล้ว ยังต้องแข่งกับโรงเรียนเอกชน แข่งกันโรงเรียนรัฐ รวมถึงวัด ก็ถือเป็นคู่แข่งและพวกนี้ต้นทุนต่ำหมด
- ในด้านวิชาการโรงเรียนเอกชนสู้โรงเรียนรัฐบาลยังไม่ได้
- โรงเรียนเอกชน เกิดขึ้นมาเพราะโรงเรียนรัฐบาลรับไม่ไหว เลยปัดส่วนที่เหลือมาให้โรงเรียนเอกชน นั้นหมายความว่าเราเป็นรอง ไม่ใช่เป็นตัวหลัก
- โรงเรียน SISB มีคู่แข่งเยอะ มองไม่ออกว่าจะแข่งขันกันอย่างไร มีจุดเด่นเหนือกว่าตรงไหน
- พ่อแม่ มีแนวโน้มพาบุตรหลานเข้าโรงเรียนรัฐ ในระดับมัธยม มากกว่าจะพาเข้าของเอกชน
- บิ๊กเนมเข้ามาเล่นในตลาดเยอะ
- โดยธรรมชาติ ธุรกิจโรงเรียนเป็นธุรกิจโตช้า ลงทุนเยอะ ผลตอบแทนต่ำ ยังมีเรื่องของชื่อเสียงอีก บางโรงเรียนเปิดมา 10 แล้ว ยังไม่เป็นที่รู้จักเลย ... ดูโดยรวมถือเป็นธุรกิจที่เหนื่อยเหมือนกัน
- ราคาหุ้นค่อนข้างแพง
------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model SISB ความท้าทายในอุตสาหกรรมโรงเรียนนานาชาติ
ดูฉบับเต็มได้ที่นี้เลยครับ