"การซื้อหุ้นคืน คือสิ่งที่จริงใจที่สุดที่บริษัทจะมอบให้กับนักลงทุน"
ถือเป็นข่าวดีสำหรับหุ้นไทยที่มีบริษัทเล็งเห็นคุณค่าในตัวของบริษัทเอง การที่ตลาดหุ้นกดราคาหุ้นของบริษัทให้ต่ำและผู้บริหารมองว่าหุ้นมีราคา "ต่ำกว่า" ความเป็นจริง จึงเป็นโอกาสที่บริษัทตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยการประกาศซื้อหุ้นคืน
การซื้อหุ้นคืนจะเป็นการนำหุ้นบางส่วนออกจากตลาดไป ทำให้บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มมากขึ้น อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้น จำนวนหุ้นลดลง ทำให้ Book Value เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยที่บริษัทไม่จำเป็นต้องลงทนอะไรเพิ่มเติม
... จึงเรียกได้ว่าการซื้อหุ้นคืน คือ สิ่งที่จริงใจที่สุดที่บริษัทจะมอบให้กับนักลงทุน นั้นเอง
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา PTTGC ประกาศซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น ใช้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 1.1% ของหุ้นทั้งหมด โดยให้เหตุผลของการซื้อหุ้นคืนว่าเพื่อเป็นการส่งสัญญาณแก่นักลงทุนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท ความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่มีมูลค่าหุ้นพื้นฐานน่าจะมีมูลค่าสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบันที่ปรับลดลงจากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน รวมถึงการซื้อหุ้นคืนจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้น จำนวนหุ้นลดลง ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นดีขึ้น และมูลค่าหุ้นพื้นฐานปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2562 ที่ผ่านมา PTTGC ประเดิมซื้อหุ้นคืน 4 แสนหุ้น ที่ราคา 51.25 บาท รวมกว่า 20.5 ล้านบาท ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้น PTTGC ระยะยาว และยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นอีกด้วย
กลับมาที่ TCAP หรือบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่มีข่าวจะควบรวมกิจการกับ TMB ก็ประกาศซื้อหุ้นคืน 5 พันล้านบาท จำนวนไม่เกิน 97 ล้านหุ้น และแจกปันผลพิเศษอีก 4 บาทคิดเป็นยีลด์ปันผลสูงถึง 13% ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้น TCAP เป็นจำนวนมาก ราคาหุ้นดีดแรงอย่างมีนัยสำคัญ ....
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การซื้อหุ้นคืนของ TCAP อาจจะไม่ส่งผลดีในระยะยาว ...
โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าในระยะสั้นมีมุมมองเป็นบวก แต่ระยะยาวอาจจะไม่ดีเพราะการจ่ายปันผลพิเศษและการซื้อหุ้นคืนจะใช้วงเงินมากถึง 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้ TCAP จะเหลือเงินไปลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อมาชดเชยกำไรที่หายไปหลังจากการควบรวมได้ลำบาก จึงอาจต้องรอ Synergy ที่เกิดจากการควบรวมก่อน จึงแนะนำ "ถือ" ให้ราคาเหมาะสม 58 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองต่าง โดยมองว่าการควบรวมระหว่าง TBANK และ TMB น่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2562 โดยจะใช้ยอดเงินประมาณ 5 พันล้านบาทลงทุนในธุรกิจใหม่กับบริษัทย่อย ไม่ว่าจะเป็น THANI MBK และ PRG แนะนำสะสมหุ้น "ซื้อ" TCAP ให้ราคาเหมาะสม 62 บาท
ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจประเด็นเรื่องของการซื้อหุ้นคืน ไม่ว่าจะเป็นของ PTTGC ที่ราคาหุ้นตกต่ำมายาวนาน และบริษัทเล็งเห็นว่าหุ้นมีราคาต่ำกว่าควรจะเป็นเลยประกาศซื้อหุ้นคืนเพื่อแสดงความมั่นใจว่าบริษัทยังแข็งแกร่ง ในขณะที่ TCAP มีดีลควบรวมขนาดใหญ่จึงแจกปันผลและประกาศซื้อหุ้นคืน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเงินที่ให้กับนักลงทุน อาจจะไม่เพียงพอให้ TCAP กลับมาเติบโตอย่างที่นักลงทุนคาดหวังไว้ในอนาคต
ประเด็นนี้นักลงทุนต้องติดตามกันต่อไปครับ ...