==เลี้ยงลูกเป็นจักรพรรดิน้อย กับ ตลาดหุ้นจีน==
ในรอบปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเป็นที่จับตามองมาที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คือ ตลาดหุ้นจีน
หุ้นจีนที่พุ่งขึ้น 150% ก่อเกิดภาวะฟองสบู่ และดึงดูดแมงเม่ามือใหม่ แห่เข้าไปในตลาด การเปิดเสรีให้คนจีนเล่นหุ้นอย่างเต็มที่ เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน 2 ประการ
1. ตลาดหุ้นจีนมีนักเล่นหุ้นมากเกือบ 90 ล้านคน (มิ.ย.58) เทียบกับประชากร 1,300 ล้านคน คือกว่า 7% !!! ในขณะที่นักลงทุนในไทย ยังมีไม่ถึง 1 ล้านคน คิดเป็นเพียง 1.5% (เทียบประชากร 64 ล้านคน)
2. นักเล่นหุ้นครึ่งหนึ่ง คือ ****“นักเรียน”**** (อ่านเพิ่มเติมที่ Thairath online โดย ลม เปลี่ยนทิศ)
ข้อสอง นี่โคตรน่ากลัว ... คนที่ขนเงินมาเล่นเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งคือเด็กในบ้านครอบครัวจีน
เด็ก ซึ่งโตมากับนโยบาย One Child Policy พ่อแม่มีลูกคนเดียว ปู่ย่า ตายาย ก็มีหลานคนเดียว
ความรักและความคาดหวัง มากมายมหาศาล เค้ามีศัพท์เรียกลูกคนจีนที่รับการเลี้ยงดูแบบจัดเต็มว่า Little Emperor Syndrome
จะเกิด “อาการจักรพรรดิน้อย”
เด็กถูกเลี้ยงดูมาแบบโลกเสมือน ดั่งใช้ชีวิตในเมทริกซ์ ไม่ต้องทำงานบ้าน ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เรียนอย่างเดียว พ่อแม่อัดวิชาเสริม นู่น นี่ นั่น ให้เต็มที่ เตรียมอาหารการกินแบบสุดพลัง บางคนไปนั่ง นอนเฝ้าลูกเรียนพิเศษวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อรอป้อนข้าวลูก
มีรายงานว่า บางบ้าน ลูกอายุ 10 ปีแล้ว พ่อแม่ ยังหวีผมให้ ขัดรองเท้า และล้างตูดให้ลูกอยู่เลย (Reese, Lori. "Children's Palace: China Copes With the One-Child Policy, 1980 A Generation of Little Emperors." Time International 27 Sept. 1999: 88)
เด็กที่มีอาการนี้หนักๆ จะเอาแต่ใจตัวเอง ความรับผิดชอบต่ำ อยากทำอะไรก็ทำ ...เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นร้อนแรงนี้ ผมคาดว่า Little Emperor เอาเงินพ่อเงินแม่มาเล่นหุ้นชัวร์ครับ
ตลาดหุ้นจีนที่เหวี่ยงขนาดนี้ กูไม่รู้ ก็ฟันธงได้เลยว่า เป็นการขับเคลื่อนของ”แรงใจ” เก็งกำไร มากกว่า..”ปัจจัยพื้นฐาน”
รอให้อะไรๆตกตะกอน ฝุ่นหายตลบ ค่อยเข้าไปดู น่าจะดีกว่า
"ปัจจัยพื้นฐานหุ้น" เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องเกาะไว้ให้แน่น ให้ภาวะความไม่แน่นอนในตลาดหุ้น ไม่ว่าที่จีน หรือที่ไทย ครับ