#แนวคิดด้านการลงทุน

Infinity Gems ในโลกของ Value Investor

โดย ณัฏฐกรณ์ ชัยสวัสดิ์
เผยแพร่:
1,271 views

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investing ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดที่มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก และแนวคิดนี้เอง ที่ทำให้นักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett และอีกมากมายประสบความสำเร็จในการลงทุน ซึ่งกฎทองแต่ละข้อมีส่วนคล้ายกับ Infinity Gemแต่ละเม็ดในจักรวาล Marvel เป็นอย่างมาก แต่ละเม็ดมีคุณสมบัติอะไรบ้าง เรามาไขคำตอบกัน

 

1.Mind Gem กฎทองข้อแรกของการลงทุนแนว VI  “จงทำให้ตลาดเป็นผู้รับใช้คุณ” เปรียบได้กับอัญมณีเม็ดแรกที่มีความสามารถในการควบคุมจิตใจ

Benjamin Graham บิดาแห่งแนวคิดการลงทุนเน้นคุณค่า มักเรียกตลาดหุ้นว่า “Mr. Market”  ถ้ามีตัวตนจริงๆ คงจะเปรียบได้กับคนที่มีอารมณ์สองขั้ว คือเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของผู้คนในตลาดที่เต็มไปด้วยความโลภ และความกลัว ทุกเช้าเมื่อเวลาตลาดหุ้นเปิด Mr. Marketจะปรากฎตัวต่อหน้าคุณ เมื่อเขาอารมณ์ดี เขาจะเสนอซื้อหุ้นต่อจากคุณในราคาที่สูงมากๆ ในขณะเดียวกัน ถ้าเขามีอารมณ์เศร้าหรือกังวลใจ เขาก็จะเสนอขายหุ้นให้คุณในราคาที่ถูกมากๆเช่นกัน

 

หน้าที่ของนักลงทุนแนว VI คือ แทนที่คุณจะโดนนายตลาด (Mr. Market) ควบคุมอารมณ์ให้ตัดสินใจไปกับความโลภและความกลัว แต่จงทำให้นายตลาดเป็นผู้รับใช้คุณแทน โดยทำให้เขาเป็นผู้หยิบยื่นหุ้นที่ดีในราคาถูก และเป็นผู้คอยรับซื้อหุ้นคืน เมื่อราคานั้นสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานไปนั้นเอง แต่นั่นเป็นเพียงอัญมณีเม็ดแรกที่นำไปสู่ความสำเร็จในโลกการลงทุนแนว VI เท่านั้น

 

2. Space Gem อัญมณีเม็ดที่สอง เปรียบได้กับ Margin of Safety

การซื้อหุ้นพื้นฐานดีเมื่อคนอื่นรู้สึกกลัวนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะราคาที่เราซื้อนั้นจะต้องมีSpace หรือ Margin of Safety ที่มากพอด้วย คำว่า “Margin of Safety” เปรียบได้กับราคาที่มีส่วนลดที่มากพอ หรือมีส่วนเผื่อสำหรับความผิดพลาดต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อรองรับความผิดพลาดอันเกิดจากตัวเราเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ปัจจัยที่มีความซับซ้อน และยากต่อการคาดเดา

การมีส่วนเผื่อสำหรับความปลอดภัยนี้เอง จะทำให้คุณยังมีผลตอบแทนที่ดีอยู่ ถึงแม้ว่าคุณจะทำผิดพลาดไปบ้าง และ หลายอย่างไม่เป็นอย่างใจบ้างก็ตาม แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ผลตอบแทนคุณก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และนั้นคืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญของนักลงทุนเน้นคุณค่า

 

3. Reality Gem คือ อัญมณีเม็ดที่สาม การมีเหตุผล สามารถแยกความจริงออกจากภาพลวงตา

หลายครั้งที่คนเก่งและมีไอคิวสูง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน นั้นเพราะการลงทุนมีเรื่องของอารมณ์ ความอคติเข้ามาเกี่ยวข้องในหลายรูปแบบ อารมณ์ของมนุษย์นี้เองได้สร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับการมองผลตอบแทน ความเสี่ยง และความน่าจะเป็นในมุมมองที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง เช่น เมื่อคนมีอารมณ์โลภลงทุน เขามักจะมองเห็นผลตอบแทน โอกาสความน่าจะเป็นที่สูงเกินจริง ในทางกลับกัน เขากลับมองเห็นความเสี่ยงที่น้อยเกินไป หรือ บางคนมองไม่เห็นความเสี่ยงเลยก็มี จนทำให้เกิดความมั่นใจที่มากเกินไป ลงทุนมากเกินไป (Overtrade) เวลาเกิดการขาดทุนหนัก เขาจะยิ่งมีอารมณ์ที่ปราศจากเหตุผลมากขึ้น และยิ่งทำให้การตัดสินใจผิดพลาดหนักขึ้นไปอีก ดังนั้นการมีพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดี และเป็นคนที่มีเหตุผลจึงเป็นลักษณะสำคัญสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า

 

4. Soul Gem คือ จิตวิญญาณ และความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ

สิ่งที่แตกต่างระหว่างนักลงทุนเน้นคุณค่า และนักเก็งกำไรคือ ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ นักลงทุนVI จะไม่ได้มองว่าหุ้นเป็นเพียงใบกระดาษ หรือ ตัวอักษรย่อที่ซื้อขายกันบนกระดานเท่านั้น แต่จะมองว่าหุ้นเป็นบริษัท เป็นกิจการที่ผลิตสินค้าและบริการจริงๆ มีคนทำงานจริงๆ ขายสินค้าและบริการอันก่อให้เกิดกระแสรายได้จริงๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องวิเคราะห์เจาะลึกในปัจจัยเชิงคุณภาพ Business Model การเติบโตทางธุรกิจ และงบการเงิน เสมือนว่าได้ลงทุนซื้อกิจการนั้นจริงๆ เมื่อเรารู้ลึกและรู้จริงในตัวธุรกิจนั้น เราจะยิ่งมีความมั่นใจ และไม่อ่อนไหวไปกับความผันผวนของราคา โดยจะยังคงถือและเติบโตไปพร้อมกับกิจการที่ยังคงมีศักยภาพ และสิ่งนั้นถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจที่ทำให้นักลงทุนเน้นคุณค่าได้รับผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำในระยะยาว

 

         "อัญญมณีทั้ง 4เม็ดแรกนั้น คือกฎทองและเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการลงทุนเน้นคุณค่า ซึ่งทำให้VI ประสบความสำเร็จในการลงทุนมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนอัญมณี 2เม็ดที่เหลือถือเป็นความจริงของโลกการลงทุนทุกประเภท ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องแนว VI เท่านั้น"

 

สองเม็ดที่เหลือขอพูดรวมกัน นั่นคือ อัญมณีเม็ดที่ 5  Power Gemซึ่งเปรียบเทียบได้กับ “พลังของดอกเบี้ยทบต้น” และ เม็ดที่ 6 Time Gem ซึ่งหมายถึงระยะเวลาในการลงทุน ในโลกของการลงทุนที่จำเป็นต้องมีเรื่องของอัตราผลตอบแทนเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

นักลงทุนเองก็จะต้องมีวินัยมากพอที่จะทำให้เงินที่เราลงทุนนั้น มีการทบต้น และพอกพูนออกไปเรื่อยๆ เปรียบได้กับ การกลิ้งลูกบอลหิมะ (Snow Ball) ซึ่งถึงแม้เดิมทีจะเป็นลูกบอลหิมะก้อนเล็กๆ หรือเงินลงทุนก้อนเล็กๆ เมื่อเราทำการกลิ้งลูกบอลไปเรื่อยๆ นานวันเข้า ลูกบอลที่เรากลิ้งนั้นจะยิ่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือพลังของผลตอบแทนทบต้น และพลังของการลงทุนระยะยาวนั่นเอง

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ Infinity Gemsในโลกของการลงทุนแนว VI หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้รับความรู้ แนวคิดในการลงทุน ตลอดจนช่วยให้การลงทุนของทุกท่านประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไป

 

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ


CEO & Co-founder Wealth2morrow

ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Wealth Management

มีประสบการณ์ด้านการลงทุน การวางแผนการเงิน

และอยู่เบื้องหลังกองทุนส่วนบุคคลชั้นนำมากมาย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง