#แนวคิดด้านการลงทุน

4 ขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงิน

โดย ภัทรพล ศิลปาจารย์
เผยแพร่:
296 views

STEP 1 : เริ่มจาก Active Income กําจัดรายจ่ายไม่จําเป็น

ถ้าหากวันนี้คุณยังอยู่ในลู่ของ Active Income เต็มตัวอยู่ก็เท่ากับว่าคุณอยู่ในขั้นตอนการเดินทางไปสู่อิสรภาพทางการเงินแล้วล่ะครับ ยินดีด้วย

ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ก็ผมจะย้ายคุณจากฝั่ง Active Income ไปสู่ Passive Income ดังนั้นคุณอยู่ที่ Active Income เริ่มต้นจากตรงจุดนี้ ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ 555

ถึงจะเริ่มต้นจากจุดนี้ แต่ขออย่างเดียวว่า “อย่า หยุด!” อย่าพอใจอย่ายอมรับได้ในวงจรแบบนี้ แต่ขอให้ เตรียมเดินข้ามไปอยู่ในวงแห่งอิสรภาพของชีวิตด้วยกัน

เพียงแต่ตอนนี้ทํางานประจําต่อไปก่อน

อ้าว! อะไรนะครับ? นึกว่าผมจะชวนคุณ ลาออกทันทีเลยเหรอ ยังครับ...ยัง อย่าเพิ่งลาออก อ่านให้จบก่อนให้ครบทุกขั้นตอนก่อนนะครับ (ใจร้อน จริงๆ 55)

คุณทํางานประจําของคุณเหมือนเดิม เพียง แต่สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็คือ ตรวจสอบรายจ่ายทั้งหมด ก่อนว่าตอนนี้มีรายจ่ายที่จําเป็นเรื่องอะไรบ้าง (ย้ำว่า รายจ่ายจําเป็นนะครับ)

ลิสต์รายการออกมาให้ละเอียดว่าแต่ละ เดือนต้องจ่ายอะไรบ้าง ยังไม่ต้องเอาเรื่องเกินความจําเป็นนะครับ เช่น ท่องเที่ยว ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ปาร์ตี้ พวกนี้เอาไว้ก่อน

จากนั้นให้เริ่มมองหาทรัพย์สินและวิธีการ ที่จะสร้างทรัพย์สินนั้นเพื่อสร้าง Passive Income กัน

แล้วเดี๋ยวเราจะไปถึงขั้นตอนที่ 2 กัน

STEP 2 : ยังทํา Active Income แต่เริ่มสร้าง Passive Income มาสมทบให้มากกว่า ค่าใช้จ่าย

ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องทํางานประจําไป ควบคู่กับการสร้าง Passive Income คุณต้องเริ่ม แบ่งเวลาไปสร้างทรัพย์สินแบบที่คุณต้องการ เพื่อให้เกิดรายรับขึ้นมาอีกทาง รายรับจะควบคู่กันไป ทั้งจากทาง Active หรือจากงานประจํา และจาก ทรัพย์สินที่เป็น Passive เพื่อให้มีรายรับรวมที่มากกว่ารายจ่าย

สิ่งที่สําคัญในขั้นตอนนี้ก็คือ คุณต้องหดรายจ่ายลงตัดค่าใช้จ่ายเกินความจําเป็นออกไปก่อน จะช่วยให้คุณข้ามไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น

ในส่วนของการทํางานประจํานั้น คุณต้องยอมทําโอที่น้อยลง ยอมรับงานน้อยลง หรือจะเปลี่ยนไปทํางานที่ทําให้มี “เวลา” เพิ่มมากขึ้นก็ได้ครับ

ทั้งหมดก็เพื่อจะได้นําเงินและเวลา (หรืออย่างใดทางหนึ่ง) ไปสร้างทรัพย์สินเพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มเข้ามา เท่านี้คุณก็จะเริ่มมีรายได้ที่เกิดจาก Passive Income แล้วครับ

4 ขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงิน

ฟังดี ๆ นะครับ แม้ Passive Income ตอนแรกมันจะน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม คุณก็ต้องเริ่มทํา ไม่ใช่เห็นว่ารายได้แบบ Passive น้อยจัง รู้สึกไม่คุ้ม ก็เลยไม่ทํา เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะติดคุก Active หรือการทํางานที่ต้องเอาเวลาไปแลกทั้งชีวิต

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนคุณอาจมีรายได้ จากงานประจํา 25,000 บาท รายได้จากค่าโอที 15,000 บาท รวมเป็นรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน มีรายจ่ายประจํา 30,000 บาทต่อเดือนเหลือเป็นเงิน เก็บ 10,000 บาท

ระหว่างนี้ คุณเริ่มแบ่งเวลาเสาร์อาทิตย์ หรือ หลังเลิกงานบางวันไปสร้างทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้คุณ เป็น Passive Income เดือนละ 10,000 บาท

สมมติว่าคุณไม่อยากทําโอทีแล้ว เพราะอยากเพิ่มเวลาว่างทําให้รายได้จากงานประจําลดลง เป็นเหลือ 25,000 บาท เมื่อรวมกับรายได้จากทรัพย์สิน (Passive Income) อีก 10,000 บาท ก็เท่ากับว่าคุณมีรายได้ 35,000 บาท ซึ่งเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายประจําของคุณคือ 30,000 บาท แถมมีเงินเก็บอีกเดือนละ 5,000 บาท

ทีนี้คุณก็จะมีเวลาเพิ่มขึ้น เพื่อไปสร้างทรัพย์สินเพิ่ม เพื่อให้รายได้จากทรัพย์สิน หรือจาก Passive Income เพิ่มขึ้นไปอีกครับ

จุดนี้คือหนึ่งในจุดที่ยากที่สุดของการหลุดจากสนามแข่งหนู (Rat Race) ของงานประจํา เพราะเงินเก็บของคุณดูเหมือนลดลง รายได้ก็ดูเหมือนจะลดลง คุณจึงรู้สึกไม่ปลอดภัย

ช่วงนี้คุณจะเหนื่อยกว่าเดิม (แต่เหนื่อยชั่วคราว) เพราะต้องแบ่งเวลาไปสร้าง Passive Income แถมยังต้องบีบรายจ่ายลงมาอีก หลายคนจึงก้าวข้ามตรงนี้ไปไม่ได้ สุดท้ายก็ล้มเลิกและยอมกลับไปขายวิญญาณเหมือนเดิม

ผมเข้าใจ เพราะเคยผ่านมาก่อนครับ แต่ผมอยากบอกว่า คุณต้องทําด้วยความ “เข้าใจ” ไม่ใช่ใช้แต่ “อารมณ์”

คุณต้องเข้าใจว่าที่ทําอยู่นี้ทําเพื่ออะไร เพื่อใคร แต่ถ้าคุณใช้อารมณ์ทํา คุณจะล้มเลิกได้ทุกเมื่อ

อดทนหน่อยครับ เพราะผลลัพธ์ที่ได้มาคุ้มค่าแน่นอน

ก็อย่างที่ผมพูดอยู่บ่อย ๆ นั่นแหละครับ “เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร”

STEP 3: เลิกทำ Active Income เมือมี Passive Income มากกว่าค่าใช้จ่าย

ในขั้นตอนนี้ คุณต้องพยายามเพิ่มรายได้จากฝั่งทรัพย์สินของคุณให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพิ่ม สร้างทรัพย์สินเพิ่ม ขยายทรัพย์สินให้ใหญ่ขึ้น หรือวิธีการตามแบบของคุณ แล้วให้รายรับจากฝั่งทรัพย์สินที่เป็น Passive Income มีมากกว่ารายจ่ายของคุณ โดยไม่พึ่งรายได้จากฝั่ง Active Income เลย

เพราะถ้ารายได้จากฝังทรัพย์สินนั้นเพียงพอ ต่อรายจ่ายของคุณ นั่นแปลว่าคุณไม่จําเป็นต้องทํางานประจํา คุณก็มีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของคุณแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีรายจ่ายเดือนละ 30,000 บาท แต่มีรายได้จาก Passive Income เดือน ละ 35,000 บาท แบบนี้ถือว่ามีอิสรภาพทางการเงิน แล้วนะครับ (แค่ยังไม่สุดเท่านั้นเอง)

ที่นี้คุณอยากจะลาออกหรือไม่ลาออกจาก งานประจําก็ตามใจคุณแล้วล่ะครับ

ขั้นตอนนี้คุณได้ครบแล้วทั้งเงิน เวลา สุขภาพ และอิสรภาพทุกด้าน แต่อย่าหยุดเพียงแค่นี้ ชีวิตเรายังยอดเยี่ยมได้กว่านี้อีกมากมาย

STEP 4 : สร้าง Passive Income ให้มากกว่า Lifestyle

แม้ว่าขั้นตอนที่ 3 จะถือว่าเรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่มันยังไม่ถึง Lifestyle ที่คุณปรารถนาจริงๆ เราต้องไปต่อกันอีกนิดเพื่อชีวิตที่ยอดเยี่ยมครับ

เมื่อมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว เราจะได้เวลากลับมาเต็ม ๆ แต่มันยังไม่มากพอที่จะครอบคลุมทั้งวงกลมชีวิตของเรา เราไม่ได้อยากมีเงินแค่พอให้อยู่รอดไปได้เดือนๆนึง เราไม่อยากประหยัดทุกอย่างเพื่อให้พอกับ Passive Income ที่มี เราไม่อยากอยู่ด้วยข้อจํากัดของเงินที่มีจึงต้องเปลี่ยน Lifestyle ของชีวิต

ย้อนกลับไปดูเป้าหมายชีวิตที่วางไว้ตั้งแต่ต้น สิครับว่า ถ้าต้องการชีวิตแบบในฝัน ได้อยู่บ้านแบบที่เราอยู่ได้ ขับรถแบบที่เราอยากขับ ได้เที่ยวประเทศที่เราอยากไป ได้ดูแลคนรักได้เหมือนที่ใจอยากได้ ทําการกุศลช่วยเหลือผู้อื่น

Lifestyle ชีวิตแบบนี้ เราต้องมีรายได้เดือน ละเท่าไหร่?

ถ้าคุณผ่านขั้นที่ 3 มาได้ คุณมีเวลาเหลือเฟือแล้ว เพราะไม่ต้องเอาเวลาไปแลกกับเงิน ผมขอให้คุณเอาเวลานี้ไปสร้าง Passive Income เพิ่มเติม เพื่อให้ชีวิตเป็นไปตาม Lifestyle ที่คุณต้องการอย่างแท้จริงครับ


คูณพอล ภัทรพล เรียนจบ MBA ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งยังจบด้านอสังหาริมทรัพย์ กับ RE-CU (Real Estate Chulalongkorn University) ควบคู่ไปด้วย

ในด้านการทํางาน พอลถือเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เป็น Triple Threat ของวงการบันเทิง คือ ทําครบ 3 อย่าง ทั้งนักแสดง พิธีกร และนักร้อง

พอลรับรางวัลมามากมาย อาทิ รางวัลศิลปินธรรมทูตทูตดาราเพื่อ คุณธรรม และรางวัลผู้ดําเนินรายการประเภททีมดีเด่น จากรายการ วีไอพี จากรางวัลโทรทัศน์ทองคํา ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2552 อีกด้วย

ในด้านธุรกิจ พอลมียอดธุรกิจเกินพันล้านบาทต่อปี และเกษียน จากงานได้ตั้งแต่อายุ 35 ปี หลังเกษียณพอลทํา Action For Passion และ ลงทุนใน Start Up ในฐานะ Angel investor เขียนและสอนวิธีเกษียณเร็ว ฯลฯ

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง