บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR หุ้นน้องใหม่ที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัว ที่กำลังจะเข้าตลาดเร็วๆนี้ โดยบริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ
และนี้คือ 8 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนจะลงทุนหุ้น SHR มีอะไรบ้าง ... มาดูกันครับ
1. SHR ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ ได้แก่
1.1 "โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง" คือ โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการและดำเนินการเองโดยใช้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท และ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย
ที่มา : https://www.facebook.com/Santiburi
1.2 "โรงแรม Outrigger" คือกลุ่มโรงแรมจำนวน 6 แห่งที่ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ Outrigger และมีการบริหารกิจการอยู่ภายใต้สัญญาบริหารจัดการโรงแรม
ที่มา : https://www.outrigger.com/hotels-resorts/fiji
1.3 "โรงแรมของบริษัทฯ ในสหราชอาณาจักร" คือกลุ่มโรงแรม จำนวน 29 แห่งในสหราชอาณาจักร ที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ Mercure และแบรนด์ Holiday Inn และบริษัทฯ มีสัดส่วนเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่เป็นเจ้าของโรงแรมดังกล่าวร้อยละ 50 และ
ที่มา : https://www.facebook.com/mercurebrighton/
1.4 "โครงการ Crossroads เฟส 1" ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการบนเกาะจำนวน 3 เกาะ ในโครงการ Crossroads ตั้งอยู่ ณ Emboodhoo Lagoon ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยปัจจุบันโครงการ Crossroads เฟส 1 ประกอบด้วยโรงแรมซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรม SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton และโรงแรม Hard Rock Hotel Maldives รวมถึงศูนย์รวมการให้บริการ (complex) เพื่อการพักผ่อนและสิ่งบันเทิงภายใต้ในโครงการ Marina @ CROSSROADS และเกาะที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นโรงแรมอีก 1 เกาะ
ที่มา : https://www.facebook.com/hardrockhotelmaldives/
2. บริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ คือบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท อินเตอร์ จำกัด ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นรวมถึง 81.00% ภายหลังการขายหุ้น IPO และหลังการใช้สิทธิภายใต้ PO Warrant กลุ่มนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือเพียง 47.67% โดยจะขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป 1,437 ล้านหุ้น คิดเป็น 39.24%
3. รายได้หลักของบริษัท SHR มาจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่
3.1 รายได้จากการให้บริการ 84.10% แบ่งเป็น
- โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง 35.90%
- โรงแรม Outrigger 48.20%
3.2 รายได้อื่น ๆ 15.90%
เช่น รายได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงินในธนาคารและจากการให้สินเชื่อแก่ FS JV Co Limited และ FS JV License Limited ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัทฯ กับ FICO UK
4. ผลการดำเนินงานของ SHR ที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง เป็นดังนี้
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 968 ล้านบาท กำไรสุทธิ 191 ล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1,074 ล้านบาท กำไรสุทธิ 306 ล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 2,576 ล้านบาท กำไรสุทธิ 450 ล้านบาท
โดยบริษัทชี้แจงว่ารายได้จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 จากเดิม 968 ล้านบาท ในปี 2559 เป็น 1,074 ล้านบาท ในปี 2560 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานของโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง ซึ่งเป็นผลจากการขยายการดำเนินงานของโรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2559
5. อัตราส่วนทางการเงินสำคัญของบริษัท
6. เป้าหมายของบริษัทหลังผ่านการระดมทุน มีอะไรบ้าง
6.1 เพื่อใช้ในลงทุนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ซึ่งรวมถึง
6.1.1 โครงการ Crossroads เฟส 1
6.1.2 โครงการปรับปรุงและพัฒนาโรงแรม Outrigger
6.1.3 โครงการปรับปรังและพัฒนาโรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท
6.1.4 เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
6.2 เพื่อชำระคืนเงินกู้ จากสิงห์ เอสเตท และเงินกู้จากสถาบันการเงิน
6.3 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและวัตถุประสงค์ทั่วไป
7. แผนการการดำเนินงานของ SHR ในระยะยาว
ตั้งเป้ามีจำนวนโรงแรมเพิ่มเป็น 100 แห่ง ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 39 แห่ง จำนวน 4,647 ห้อง ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในการขยายและปรับปรุงโรงแรมในเครือประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท พร้อมกับยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสในการลงทุนโรงแรมใหม่ๆ การเข้าซื้อโรงแรม การร่วมทุนกับพันธมิตร และการเข้าไปบริหารโรงแรม ซึ่งจะทำให้บริษัทมีขนาดของพอร์ตโรงแรมที่มากขึ้น และทำให้มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่เป็นรายได้ประจำให้กับ S ในสัดส่วน 50% ได้อย่างมั่นคง จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมใน S ประมาณ 40%
นอกจากนี้ยังมองไปถึงโอกาสในการที่จะนำโรงแรมในเครือเข้าจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) เพื่อจะนำเงินไปต่อยอดการลงทุนในโครงการโรงแรมใหม่ๆในอนาคต โดยที่การลงทุนโรงแรมในเครือจะกระจายไปยังประเทศต่างๆที่มีศักยภาพ และจะเน้นโรงแรมที่ไม่มีฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมที่บริษัทลงทุนมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
8. นโยบายปันผลของบริษัท
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและบริษัทฯกำหนดไว้ในแต่ละปี
Source : https://shotelsresorts.com ,https://www.prop2morrow.com