#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

8 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนจะลงทุนหุ้น เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR)

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
2,788 views

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR หุ้นน้องใหม่ที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัว ที่กำลังจะเข้าตลาดเร็วๆนี้ โดยบริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ

และนี้คือ 8 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนจะลงทุนหุ้น SHR มีอะไรบ้าง ... มาดูกันครับ

1. SHR ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ ได้แก่

SHR

1.1 "โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง" คือ โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการและดำเนินการเองโดยใช้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท และ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย

SHR

ที่มา : https://www.facebook.com/Santiburi

1.2 "โรงแรม Outrigger" คือกลุ่มโรงแรมจำนวน 6 แห่งที่ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ Outrigger และมีการบริหารกิจการอยู่ภายใต้สัญญาบริหารจัดการโรงแรม

SHR

ที่มา : https://www.outrigger.com/hotels-resorts/fiji

1.3 "โรงแรมของบริษัทฯ ในสหราชอาณาจักร" คือกลุ่มโรงแรม จำนวน 29 แห่งในสหราชอาณาจักร ที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ Mercure และแบรนด์ Holiday Inn และบริษัทฯ มีสัดส่วนเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่เป็นเจ้าของโรงแรมดังกล่าวร้อยละ 50 และ

SHR

ที่มา : https://www.facebook.com/mercurebrighton/

1.4 "โครงการ Crossroads เฟส 1" ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการบนเกาะจำนวน 3 เกาะ ในโครงการ Crossroads ตั้งอยู่ ณ Emboodhoo Lagoon ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยปัจจุบันโครงการ Crossroads เฟส 1 ประกอบด้วยโรงแรมซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรม SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton และโรงแรม Hard Rock Hotel Maldives รวมถึงศูนย์รวมการให้บริการ (complex) เพื่อการพักผ่อนและสิ่งบันเทิงภายใต้ในโครงการ Marina @ CROSSROADS และเกาะที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นโรงแรมอีก 1 เกาะ

SHR

ที่มา : https://www.facebook.com/hardrockhotelmaldives/

2. บริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ คือบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท อินเตอร์ จำกัด ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นรวมถึง 81.00% ภายหลังการขายหุ้น IPO และหลังการใช้สิทธิภายใต้ PO Warrant กลุ่มนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือเพียง 47.67% โดยจะขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป 1,437 ล้านหุ้น คิดเป็น 39.24%

SHR

3.  รายได้หลักของบริษัท SHR มาจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่

3.1 รายได้จากการให้บริการ 84.10% แบ่งเป็น

- โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง 35.90%

- โรงแรม Outrigger 48.20%

3.2 รายได้อื่น ๆ 15.90%

เช่น รายได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงินในธนาคารและจากการให้สินเชื่อแก่ FS JV Co Limited และ FS JV License Limited ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัทฯ กับ FICO UK

SHR

4. ผลการดำเนินงานของ SHR ที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง เป็นดังนี้

ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 968 ล้านบาท กำไรสุทธิ 191 ล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1,074 ล้านบาท กำไรสุทธิ 306 ล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 2,576 ล้านบาท กำไรสุทธิ 450 ล้านบาท

โดยบริษัทชี้แจงว่ารายได้จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 จากเดิม 968 ล้านบาท ในปี 2559 เป็น 1,074 ล้านบาท ในปี 2560 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานของโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง ซึ่งเป็นผลจากการขยายการดำเนินงานของโรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2559

5.  อัตราส่วนทางการเงินสำคัญของบริษัท

SHR

6. เป้าหมายของบริษัทหลังผ่านการระดมทุน มีอะไรบ้าง

6.1 เพื่อใช้ในลงทุนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ซึ่งรวมถึง

6.1.1 โครงการ Crossroads เฟส 1

6.1.2 โครงการปรับปรุงและพัฒนาโรงแรม Outrigger

6.1.3 โครงการปรับปรังและพัฒนาโรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท

6.1.4 เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

6.2 เพื่อชำระคืนเงินกู้ จากสิงห์ เอสเตท และเงินกู้จากสถาบันการเงิน

6.3 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและวัตถุประสงค์ทั่วไป

7. แผนการการดำเนินงานของ SHR ในระยะยาว

ตั้งเป้ามีจำนวนโรงแรมเพิ่มเป็น 100 แห่ง ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 39 แห่ง จำนวน 4,647 ห้อง ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในการขยายและปรับปรุงโรงแรมในเครือประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท พร้อมกับยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสในการลงทุนโรงแรมใหม่ๆ การเข้าซื้อโรงแรม การร่วมทุนกับพันธมิตร และการเข้าไปบริหารโรงแรม ซึ่งจะทำให้บริษัทมีขนาดของพอร์ตโรงแรมที่มากขึ้น และทำให้มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่เป็นรายได้ประจำให้กับ S ในสัดส่วน 50% ได้อย่างมั่นคง จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมใน S ประมาณ 40%

นอกจากนี้ยังมองไปถึงโอกาสในการที่จะนำโรงแรมในเครือเข้าจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) เพื่อจะนำเงินไปต่อยอดการลงทุนในโครงการโรงแรมใหม่ๆในอนาคต โดยที่การลงทุนโรงแรมในเครือจะกระจายไปยังประเทศต่างๆที่มีศักยภาพ และจะเน้นโรงแรมที่ไม่มีฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมที่บริษัทลงทุนมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

8. นโยบายปันผลของบริษัท
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและบริษัทฯกำหนดไว้ในแต่ละปี

Source : https://shotelsresorts.com ,https://www.prop2morrow.com


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง