เปิดสัปดาห์มาด้วยบรรยากาศที่ไม่สดใสซะแล้วกับตลาดหุ้นไทย สาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายนอกเป็นส่วนใหญ่
เรามาดูกันว่าตลาดหุ้นลงแบบนี้ เราควรลงทุนอย่างไรดี สรุปจากบทวิเคราะห์ให้ได้อ่านกันครับ .. ?
บล.หยวนต้า วิเคราะห์ว่า จิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียไม่สดใสเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองในฮ่องกง ภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีและอาเจนติน่า ความตึงเครียดของสงครามทางการค้าระหว่างจีนและอเมริกาส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ร่วงแรงถึง 390 จุด กระแสเงินส่วนใหญ่ไหลเข้า "ทองคำ"
กลยุทธ์การลงทุน ... แนะนำเพิ่มสัดส่วนการถือเงินสดให้มากขึ้น ปรับพอร์ตมาถือหุ้นที่เป็น "เชิงรับ" เช่น หุ้นปันผลสูง กองทุนอสังหา REIT แนวโน้ม SET มีโอกาสลงได้ถึง 1610-1620 จุด
บล.คันทรี่ กรุ๊ป มองว่าสัปดาห์นี้แกว่งผันผวนในทางลง แต่มองเป็นโอกาสสะสมหุ้นปันผลสูงเข้าพอร์ตโดยมีโอกาสย่อตัวได้ลึกถึง 1600 จุด โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมไม่เห็นการเติบโตอย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้า การเมืองของฮ่องกง
แนะนำลงทุนในหุ้นปันผลสูง เช่น AP ADVANC EASTW INTUCH MAJOR TTW และเน้นถือเงินสดให้มากขึ้น
จุดวัดใจอยู่ที่ 1630 จุด ถ้าหลุดลงมาอาจจะเจอกับขาลงรอบใหญ่
ภาพประกอบจากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงค์ กิมเอ็ง
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แสดงความเห็นว่าจุดวัดใจอยู่ที่ 1630 จุด ถ้าหลุดจะเป็นขาลงรอบใหม่
บล. เอเชีย เวลท์ คาดว่าการวิ่งของ SET Index น่าจะอยู่ในกรอบ 1620 -1627 จุด นำโดยความกังวลจากต่างประเทศ สงครามการค้าที่ยังไม่ดีขึ้น และความรุนแรงในฮ่องกง แนะนำหุ้น BEM CPALL AOT
บล. โนมูระ พัฒนสิน วิเคราะห์ว่าสาเหตุหลักมาจากเรื่องของสงครามการค้า แต่ราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้นได้บ้างส่งผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันบ้านเราสามารถกลับมาบวกได้ ส่งผลให้ SET Index มีรีบาวได้บ้าง แนะนำหุ้นกลุ่ม Domestic Play ได้แก่ SABINA AMANAH CPF JAMRT AMATA TASCO และ SCB
นี้ก็เป็นกลยุทธ์ของนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ ในเวลานี้ครับ ....