คำถามน่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน ชอบถามว่า "ควรลงทุนอะไรดี ?" .... ถ้าเรามีเงินเก็บ 5 หมื่น - 1 แสนบาท ควรจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามาไข่คำตอบกันครับ
ปัจจุบันนี้จะหวังทำงานเก็บเงิน ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำน่าจะเรียกได้ว่า "หมดยุค" ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าเมื่อก่อนก็อาจจะได้เพราะดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึง 10% กว่าๆ แต่ปัจจุบันนี้ได้ 1% ยังยากเลย ดังนั้นเราต้องหาการลงทุนทางเลือกใหม่ๆที่พร้อมจะรับความเสี่ยง และพร้อมรับผลตอบแทนที่มากขึ้น
คำตอบสำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ลองหันไปมอง "กองทุนรวม" ถือเป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน "มือใหม่" เพราะกองทุนรวมสมัยนี้ซื้อง่าย-ขายคล่อง มีผู้ดูแลเงินของเรา โดยเริ่มต้นจากการเดินเข้าธนาคารสักแห่งหนึ่งและบอกเจ้าหน้าที่ว่า "จะมาซื้อกองทุนรวม" มั่นใจได้ว่ากองทุนรวมนั้นมีความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
ประเด็นคือ ทำไมต้องกองทุนรวม ...
ปัจจุบันนี้กองทุนรวมมีความแพร่หลาย เข้าถึงง่าย ซื้อขายออนไลน์ได้ มีผู้ดูแลการลงทุน สามารถขอรับคำปรึกษาได้อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเข้าถึงนักลงทุนมือใหม่ได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะมาก
กองทุนรวมมีหลายแบบ แต่ละแบบก็ต่างวัตถุประสงค์ มีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่แตกต่างกันแน่นอน รวมถึงผลตอบแทนก็แตกต่างกันด้วย แต่ใหญ่ๆแล้วมือใหม่ควรรู้มี 2 แบบ คือ กองทุนรวมที่เป็นตราสารหนี้ กับกองทุนรวมหุ้น ...
กองทุนรวมตราสารหนี้เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เงินต้นไม่หาย แต่ผลตอบแทนราวๆ 1.5-1.7% เทียบเท่าเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ซึ่งแต่ละกองทุนก็จะมีนโยบายคล้ายๆกัน ถือตราสารหนี้คล้ายๆกัน
ในขณะที่กองทุนรวมหุ้นมีความเสี่ยงสูง เงินต้นอาจจะหายได้ แต่เราจะได้ผลตอบแทนมากขึ้น ทั้งนี้มักจะอ้างอิงอยู่กับตลาดหุ้น ณ เวลานั้น แต่ระยะยาวแล้วจะได้ผลตอบแทนประมาณ 5-8% โดยเฉลี่ย
ดังนั้นเวลาเราซื้อกองทุนรวม เราอาจจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้สัก 30% ส่วนที่สองซื้อกองทุนรวมหุ้นสัก 70% คือยอมรับความเสี่ยงให้มากหน่อยเพื่อได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า แล้วก็ถือระยะยาวไปเลย ไม่ต้องไปสนใจมันมากนักถ้ามันจะขึ้นหรือจะลง
แต่สำหรับคนที่ "กระตือรือร้น" ซักหน่อย อาจจะมีการปรับพอร์ตทุกๆสามเดือน ถ้าเราเห็นว่าตลาดหุ้นลงมาเยอะ เราอาจจะขายตราสารหนี้บางส่วนมาเพิ่มสัดส่วนของหุ้น หรือถ้าเราเห็นว่าตลาดหุ้นขึ้นมาเยอะ อาจจะลดสัดส่วนของกองทุนหุ้นลง ไปซื้อตราสารหนี้ให้มากขึ้น อะไรแบบนั้นนะจ๊ะ
แต่เชื่อเถอะ บางครั้งเราซื้อๆขายๆบ่อยครั้ง ยิ่งทำให้เราผิดพลาดมาก การซื้อแล้วถือไว้เฉยๆอาจจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า