#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ปี 2019 “เม็ดเงินฝรั่ง” จะเข้ามาไหม ?

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
80 views

ตลาดหุ้นไทย เข้าสู่ไตรมาสที่สอง ก็เจอหยุดยาวสงกรานต์ที่เป็นช่วงวอลุ่มการซื้อขายจะเบาบางกว่าปกติ และเป็นช่วงรอปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน แต่ปีนี้มีความพิเศษคือ SET Index ในเดือนเมษายนทยอยขึ้นทีละน้อยๆ จาก 1600 ต้นๆ มาที่ 1600 ปลายๆ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน

 

ภาวะตลาดอาจจะได้ปัจจัยบวก จากแรงซื้อของนักลงทุนเพื่อดักผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2019 ที่กําลังทยอยประกาศในช่วงนี้ ไปจนถึงกลางเดือนพ.ค. รวมถึงประเด็นข่าวการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการบริโภค ท่องเที่ยว อสังหาฯ แพคเกจช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการต่ออายุการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว (VOA) โดยคาดว่าจะเข้าครม.ได้ใน 2 สัปดาห์ (ไม่เกินต้นเดือนพ.ค.) ในขณะที่สภาพ ตลาดหุ้นทั่วโลก ถือว่าปรับตัวขึ้นได้ดีเกินคาด เป็นไตรมาสหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนดีเยี่ยม ตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ล้วนแล้วแต่ปรับตัวขึ้นกันทั้งสิ้น หลายตลาดปรับตัวกันดีมากในระดับ 8%-20% กันเลยทีเดียว

 

ตลาดหุ้นที่ทำนักลงทุนประหลาดใจที่สุด น่าจะเป็น ตลาดหุ้นจีน เพราะในปีที่แล้ว หนึ่งในตลาดหุ้น ที่ให้ผลตอบแทน "เลวร้าย" ที่สุดในโลก คือ ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ผลงานคือดัชนีติดลบไป -24.6% ... พอมาปีนี้ เพิ่งผ่านไป 3 เดือนกว่าๆ ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทน "ดีเยี่ยม" ที่สุดในโลก คือ ตลาดหุ้นจีน ผลงานคือดัชนีบวกไปเกือบ +31% 
 

ดัชนีตลาดหุ้นจีน กำลังบวกคืนผลขาดทุนปีที่แล้ว ในอัตราเร่ง ถามว่าเพราะอะไร  ก็ต้องตอบว่าเพราะจีนเขา "มีข่าวดี มีความหวัง" ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่ความกดดันผ่านจุดพีคไปแล้ว ทุกอย่างผ่อนคลายไปมาก ... การส่งออกที่ไม่เลวร้ายอย่างที่คาด... และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ก็กลับเป็นการส่งสัญญาณชลอการขึ้นดอกเบี้ย ทุกอย่างเป็นข่าวดีที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น


"หันมามองตลาดหุ้นไทย เราก็ยังบวกมาได้ แม้ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย ... ประมาณ 7% นับจากต้นปี ยังมาไม่ถึงเปอร์เซนต์ขาดทุน ของปีที่แล้วที่ติดลบไป และผมยังเชื่อว่า" เราจะมี "มีข่าวดี มีความหวัง"

 

เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคม รอเพียงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น  ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ จะได้ประกาศใช้อย่างแน่นอน ไม่ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะจัดตั้งโดยแกนนำพรรคใดก็ตาม ข่าวการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมกับนโยบายเศรษฐกิจที่สดใหม่ จะเดินหน้าประเทศไทย บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่แม้จะยังทำผลงานไม่เติบโตนัก แต่ก็จะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นครั้งนี้ด้วย

 

ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ แม้จะปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ถ้าเทียบกับหลายๆประเทศในภูมิภาคเดียวกัน หรือประเทศที่โดนต่างชาติปรับพอร์ตขายทิ้งในปีที่แล้วหนักมาเหมือนๆกัน...ก็ต้องยอมรับว่าผลตอบแทนเรายังสู้ประเทศอื่นๆไม่ได้ โดยเฉพาะเม็ดเงินต่างชาติ (ที่เรียกชื่อเล่นกันว่า เม็ดเงินฝรั่ง) ที่เริ่มไหลกลับไปยังหลายๆประเทศในเอเชีย ชดเชยการขายหนักในปีที่แล้ว เช่น ไต้หวัน อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ในขณะที่ยังคงขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

 

ในมุมมองของผม ผมคิดว่าตลาดหุ้นไทย ยังคงเป็นตลาดหุ้นที่อยู่ในเรดาห์การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอยู่ ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่ยังมีการเติบโต เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภูมิภาค GMS (Great Mekong Subregion) หรืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศไปอีกขั้น อย่างที่ไม่เคยลงทุนหนักเช่นนี้มาก่อน

จึงยังคงมีความน่าสนใจ นอกจากนี้ การที่เม็ดเงินฝรั่งได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำจากประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ไปแล้ว ก็มีโอกาสเกิด Country Rotation (สับเปลี่ยนเวียนประเทศลงทุน) คล้ายกับหลักการของ Sector Rotation (สับเปลี่ยนเวียนกลุ่มลงทุน) โอกาสที่เม็ดเงินฝรั่งจะกลับมาที่หุ้นไทยปีนี้ จึงยังมีความเป็นไปได้

 

และจากสถิติการลงทุนที่ผ่านมา เมื่อใดที่เม็ดเงินฝรั่งเข้าซื้อหุ้นไทย (หรือแม้แต่ขายสุทธิเบาๆก็ตาม)…ปีนั้นผลตอบแทนของ SET จะเป็นบวกครับ

 

"นี่เป็นส่วนหนึ่งของคอร์สเรียนหุ้น จาก stock2morrow หากท่านไหนสนใจสามารถลงทะเบียนเรียนได้ที่"

คอร์สเรียนหุ้น จาก stock2morrow

 


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง