#แนวคิดด้านการลงทุน

เป็นนักลงทุนให้เหมือนเป็นนักกีฬาโอลิมปิก My Way My Investment EP.19

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
219 views

เป็นนักลงทุนให้เหมือนเป็นนักกีฬาโอลิมปิก

 

 

สวัสดีเพื่อนๆนักอ่าน และนักลงทุนทุกท่านค่ะ กลับมาพบกับอีกครั้งกับ โปรเจกต์ดีๆ ที่เราพวกเราชาว stock2morrow ตั้งใจทำขึ้น เพราะเราเชื่อว่า#ทุกอาชีพสามารถลงทุนได้กับโปรเจกต์My Way My Investmentครั้งนี้เป็น EP.19แล้วนะคะ เดินทางกันมาก็หลายอาชีพแล้วในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้เรามาพร้อมกับอาชีพที่ใกล้ตัวนักลงทุนมากๆเลยค่ะ “ที่ปรึกษาด้านการลงทุน” จากบริษัท หลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษา อ.ต๋อม คุณทรงศักดิ์ โทแก้วก็ผ่านการลงทุนแบบที่ตัวเองนั้นเป็นนักลงทุนรายย่อยมาก่อน ทำให้เข้าอกเข้าใจ พวกเรานักลงทุนทั้งมือใหม่ มือเก่าได้อย่างดีทีเดียว ซึ่งในบทสัมภาษณ์นี้ อ.ต๋อม จะมาบอกเล่าเทคนิควิธีการในตลาด ที่ให้พวกเราเห็นภาพ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ทำให้เพื่อนๆได้เรียนรู้แนวทางการลงทุนและรู้จักตลาดได้มากขึ้น...เราไปเริ่มบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

 

แนะนำตัวหน่อยนะคะ ตอนนี้ทำอาชีพอะไรอยู่คะ?

สวัสดีครับผมอ.ต๋อม ทรงศักดิ์ โทแก้ว ที่ปรึกษาด้านการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

งานหลักเลยดูแลเรื่องการสอนและดูแลเพื่อนๆ นักลงทุนนะครับทั้งที่อาจจะเป็นนักลงทุนอยู่แล้ว แต่ว่าการลงทุนอาจจะยังไม่ตอบโจทย์นะครับ และเพื่อนๆนักลงทุนมือใหม่ ก็จะปูพื้นฐานชุดคความรู้  รวมทั้งขั้นตอน STEP การลงทุนที่ต้องไปใช้ตลาดให้ครบท้วนครอบคลุมทั้ง Fundamental และ Technicalครับ 1 ปีครับ ก่อนหน้านี้ผมเป็น อ.ประจำสอนเรื่องการเขียนโปรแกรมควบคุมเครื่องจักรทางคอมพิวเตอร์ ให้นักเรียนทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพครับ เหมือนได้ทำด้านการเขียนโปรแกรมมาตลอด พอตอนนี้ก็เหมือนมาเขียนโปรแกรมหุ้นด้วย ก็เลยลิงค์กันง่ายครับ

 

ก่อนมาเป็นที่ปรึกษา ลงทุนตั้งแต่เมื่อไหร่

เริ่มลงทุมมา... ถ้านับจริงๆ ปีนี้เป็นที่ 10 ครับ ลงทุนตั้งแต่เริ่มทำงานเลยครับ โชคดีว่าตอนเริ่มทำงานมีพี่ที่เขาลงทุนอยู่แล้ว รวมทั้งเป็นปีที่ตลาดหุ้นวิ่งอยู่แล้วด้วยเห็นเขากำไรค่อนข้างเยอะเลย ประสบความสำเร็จ เราก็ศึกษาตามเขามา ตอนนั้นปี 2550 ได้นะครับ เริ่มจากตามเข้ามาก่อน ตอนนั้นเราก็เป็นนักลงทุนรายย่อยทั่วไปเลยครับ ต้องบอกก่อนว่าตลาดหุ้นเนี่ย ไม่มีรูปแบบที่สำเร็จรูป เข้ามาเรียน 1 2 3 4 5 ได้เหมือนกัน แต่ต้องไปปรับใช้ ในตลาดมีหุ้นตั้ง777 ตัว รูปแบบการลงทุนของเรา ณ ตอนนั้น มันก็สะเปะสะปะ ลงเล่น ลองเล่นไปเรื่อยๆ ลองเองทำเองทั้งนั้น ที่เราได้มาตอนนั้น คือสถิติของหุ้นตัวนั้นๆ ประสบการณ์ของหุ้นแต่ละตัวที่เราเจอ เราเริ่มด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ช่วงนั้น เป็นช่วงที่ Social media, Facebookเริ่มมาแล้วด้วย ก็หาอ่านเอา ลองผิดลองถูกมาเอง

 

3 ปีแรกเจ๊งสนิทครับ เหมือนนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ที่เข้ามาเพื่อเน้นเก็งกำไรเข้ามาเพื่อหวังกำไร ไอดอลของเราก็เป็นนักเก็งกำไร รายย่อยจะไม่ชอบคนที่บอกให้ลงทุนระยะยาว จะหลงกับตลาดเทรดมากๆ จริงๆไม่รู้ว่าคนที่เขาเทรดแล้วโตได้ เพราะเค้ามีประสบการณ์มาก่อน แต่เราไม่มีไงหุ้นเก็งกำไรก็เหมือนลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก คือมีแต่นักกีฬาโอลิมปิกเท่านั้นที่ไปแข่งกัน แต่เราเดินออกจากบ้าน ไปลงสนามกับเขา ทำยังไงก็แพ้ครับมันต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เป็นตัวแทนโรงเรียน เขต อำเภอ จังหวัด ทีมชาติ เอเชีย แล้วถึงไปโอลิมปิก ซึ่งการไต่ระดับให้ไปทีละขั้นนี้มันไม่มีโค้ชสอนไงครับในตลาด ในงานสัมมนาส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่ไม่มีใครสอนว่าขั้นตอนกว่าจะประสบความสำเร็จต้องทำยังไง

 

 

 

ใช้เวลานานไหม กว่าจะคิดได้ ว่าเราไม่ใช่นักกีฬาโอลิมปิก

 

3 ปีแรกคิดไม่ได้เลยครับ ด้วยความที่ตลาดมันดี ไปได้เรื่อยๆแต่จนมาช่วงที่ต่างชาติเทขายหนักๆ เราออกไม่ทัน เพราะคิดว่า ตัวที่ถืออยู่มันน่าจะไปได้พอราคามันตกแล้วมันไม่กลับมาเลย แต่พอพลาดแล้วเราต้องมาหาจุดที่ผิดพลาดเพราะงานที่ทำเราเป็นครูด้วย เราต้องรู้ว่ามันผิดตรงไหน ถูกตรงไหน จะได้ปรับได้แก้ไข มานั่งดู ก็ค้นพบว่า การลงทุนไม่ได้มีแค่ด้านเดียวตัว Fundamentalไว้คัดหุุ้นที่พื้นฐานดี แต่ต่อให้พื้นที่ฐานที่ดี แต่เราเข้าผิดรอบก็เจ๊งได้เหมือนกันแล้วพอศึกษา Technicalต่อ ทำให้เป็นการเปิดโลกตัวเองมากเลย เพราะตัวนี้มันเอามาเสริม ฝั่ง Fundamental ได้มากๆเลย

 

เล่าเหตุการณ์ช่วงที่ผิดพลาดหนักๆ ใน3 ปีแรกให้ฟังหน่อยค่ะ

 

3 ปีที่ลองผิดลองถูก แต่เป็นขาขึ้นก็เลยได้กำไรทั้งหมดเลย แต่ได้แค่3 -5 % เราก็ขายแล้ว แต่

ช่วงที่เข้าปีที่ 4 เป็นตลาดขาลง แต่เราใช้วิธีเดิม อย่างตอนแรกไปฟังนักวิเคราะห์บอกว่า ตัวนี้เข้า 2 บาท พอ 2.50ก็ออกนะ แล้วตั้งรับเป้าใหม่3 บาทเข้า แล้ว 4 บาทก็ออกอีก ก็ขยับตามเข้าไปเรื่อยๆ พอรอบสุดท้ายเข้า 5 บาท แต่มันดันไม่ขึ้น แต่กลายเป็น 1 บาท !!! แล้วเราก็เทหมดหน้าตักไปซะด้วย ก็ Fail ไปครับรอบนั้น ตอนนั้นสิ่งที่ทำ คือก็ถือติดมือไว้ รอแล้ว รออีก รอแล้ว รออีก มันไม่กลับอีกเลย! หุ้นที่ไม่ได้เป็นตัวหลักของประเทศเรา ถ้ามันลงแล้ว มันลงเลยครับ ทั้งที่มันเป็นหุ้นพื้นฐานดีนะ เหมือนช่วงที่มันขึ้น คือช่วงที่จุดพีคของบริษัทเขาแล้ว

 

ตอนนั้นสภาพคือคนติดดอย จากเงินทั้งหมด 100% เหลือไม่ถึง 50%คนส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้น เขา ใช้เงินเก็บอยู่แล้วนะ คิดว่ามันจะได้ แต่ดันไม่ได้ ก็เครียดมาก ก็พยายามคิด ศึกษาเพื่อให้เรากลับมาให้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะเราชะล่าใจไป คิดว่า เรารู้เท่านี้แล้วมันพอ ที่เราจะทำกำไรได้แต่พอมาดูจริงๆ มันเรื่องที่ต้องศึกษาอีกมากถ้า Fundamentalเหมือนเก็งกำไรปลายปี เหมือนคนที่ขับรถ ที่รู้ว่าจะไปไหนแต่ไม่แผนที่ รู้ว่าข้างหน้าทางที่ไปอ่ะ มันถูกแน่ๆแหละ แต่ไม่มี Direction จะเลี้ยวหรือขวา แต่ Technicalคือ ทำให้มองเห็นเป็นรูปธรรม มองเห็นวิธีการเดินไปรู้ว่าต้องเลี้ยวตอนไหนตอนไหนต้องหยุดเดิน

 

 เหมือนเป็นเคล็ดลับของอ.เลยไหมคะ คือต้องมีความรู้ ทั้ง  2 ทาง Fundamental และ Technical

 

ตอบอย่างการลงทุนสมัยใหม่นะ ที่วิธีการลงทุนมันเปลี่ยน ผมมองว่า เราต้องรู้ให้ครอบคลุมทุกด้านก่อนลงทุนตัว Fundamental จะช่วยเรากรองตัวหุ้นที่ดีมาไว้ในพอร์ตก่อน แล้วTechnical  จะมาช่วยให้เข้ารอบที่ถูกต้อง ควรมีความรู้ทั้งสองทางแล้วจึงเริ่มลงทุนนะครับนักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ รายย่อยจะรอขายหลังได้ปันผล ถ้าเป็นรายใหญ่จะขายตั้งแต่ไตรมาส 3 เขารู้รอบธุรกิจ เขาได้กำไร 400% แล้วเขาไม่มารอปันผลแค่ 3-5% ครับ เพราะเขาเลือกขายตอนนี้ จะมีรายย่อยรับซื้อหุ้นของเค้า ต้องบอกว่าตลาดหุ้นเป็น Money Game มีคนกำไร ต้องมีคนขาดทุน ในเกมส์นี้มีใครบ้างละ มีกองทุน มีกองทุนต่างชาติ มีโบรกเกอร์ และเรา ที่ลงทุน มันลงในหุ้นตัวเดียวกัน มีคนกำไรก็ต้องมีคนขาดทุน ซึ่งรายย่อยเป็นกลุ่มที่ได้ข้อมูลท้ายสุด หลังสุด ดูแล้วยังไงก็ขาดทุน ถ้าเราใช้Fundamental อย่างเดียว เราจะเอาชนะเกมส์นี้ไม่ได้เลย 

 

 

แล้วปัจจุบันลงทุนอะไรอยู่บ้าง แบ่งพอร์ตการลงทุนอย่างไร

 

หุ้นพื้นฐาน40% ถ้าไม่รู้ว่าจะลงตัวไหนดี จริงๆตลาดหลักทรัพย์ เลือกให้แล้ว คือ SET 50 เป้าหมายของกองทุนขนาดใหญ่ ถ้าเราอยู่ใน 50 เงินต้นเราจะไม่หายแน่นอนและมีปันผลให้ด้วย เราเลือกตัวที่อัตราปันผลชนะดอกเบี้ยธนาคารก็โอเคแล้ว 40% นี้จะเป็นตัวประคองเราให้ไม่ล้มในตลาดหุ้น ส่วนอีก  60% ผมเอาไว้สร้างกระแสเงินสด ผมเป็นข้าราชการมาก่อน เงินเดือนน้อย กว่าจะเก็บเงินได้เยอะก็นาน เราอยากเติบโตและมีมั่นคง เราก็เลยลงทุนในสินทรัพย์ที่มันมีLeverage เช่น พวก DW หรือ TFEX แต่เราก็ต้องเข้าใจและต้องยอมรับว่ามันมีความเสี่ยงสูง ถ้าเราขาดทุน เงินต้นมันมีโอกาสหาย ดังนั้นเราต้องมีความรู้ในการลงทุนนั้นๆด้วยครับ

 

ตอนนี้อาจารย์มีเป้าหมายการลงทุนอย่างไรคะ?

ไม่ได้Fix นะ แต่ก็คืออยากมีเงินเก็บหลังเกษียณ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์คำนวนไว้ให้แล้วว่า ควรมีเงินเก็บหลังเกษียณ อย่างน้อย 4ล้านคือเป็นยอดที่จะไม่เดือดร้อนใคร เฉลี่ยวันละประมาณ 500บาท  คำนวนเงินเฟ้อในอนาคตแล้วนะ และรวมค่ารักษาพยาบาลต่างๆแล้ว ตั้งไว้ว่าเกษียณ อายุ 60 แล้วอยู่ถึงอายุ80 แต่ผมอยากเกษียณเร็วกว่าที่เขาตั้งไว้ ผมอยากเกษียณประมาณ50 ก็ต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้มั่นคงซึ่งต้องเลือกวิธีการลงทุน หลายคนอาจจะเข้าใจความหมายของเกษียณผิด จริงๆแล้วเกษียณคือเราอาจจะเกษียณจากงานนี้ ไปทำงานอีกอย่างนึงโดยที่ค่าตอบแทนอาจจะน้อยลง แต่เรารู้สึกว่าเราทำแล้ว เราทำแล้วสบายใจ ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ได้อย่างมีความสุข ไม่ได้หมายความจะนอนอยู่บ้านเฉยๆ แค่เลือกที่จะทำในงานที่เรารักมากขึ้นเท่านั้นครับ

 

อย่างอาชีพที่ปรึกษา เป็นอาชีพที่เราอยากทำหรือเปล่าคะ?

ผมโชคดี ผมๆได้ทำอาชีพที่ตัวเองชอบ ตัวเองถนัด รู้สึกว่าตัวเองได้เกษียณนานแล้ว รู้สึกว่าเราไม่ต้องกังวลมากนัก ตอนนี้ก็คือทำรอให้เงินเก็บมันถึงเป้าเท่านั้นครับ

 

ทำไมอยู่ๆ ถึงเปลี่ยนอาชีพจากอาจารย์มาเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนคะ?

พอเราศึกษาเรื่องหุ้นมาทั้งสองแบบ ก็เริ่มให้ความรู้การลงทุนกับเพื่อนๆ เลย เปิด Page Facebook ครับ เป้าหมายเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับหุ้น คนติดดอยเหมือผมเมื่อก่อน มาช่วยตอบปัญหาให้เขาครับ เพราะมันไม่เคยมีคนทำมาก่อน พอเราช่วยตอบ ก็เหมือนสร้างกลุ่มที่มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทางผู้ใหญ่ของไอร่าพอเค้าเห็นว่าเรา Live แล้วเห็นว่าวิธีการสอนของเรา มีลำดับมีขั้นตอน ก็เลยชวนมาทำงานที่นี่ ซึ่งมันคืองานที่เราชอบ เหมือนโอกาสมันมาถึงเรา ไม่ต้องรอตอนเราเกษียณ เราก็คว้าไว้ครับ 

 

มีการบริการจัดการเวลางานประจำกับการลงทุนอย่างไร?

หลังจากที่เราสอน จริงๆในการเรียน 1 วัน มันไม่มีใครที่สามารถเก็บความรู้ เนื้อหาได้ทั้งหมดหรอกครับ นักเรียนที่เข้ามาเรียนกับผม เหมือนเข้ามาหารูปแบบ วิธีการจัดการพอร์ต เขาต้องกลับไปทำการบ้าน ซึ่งก็จะมีคำถาม ที่ผมต้องคอยตอบ คอยช่วยไกด์ตามมา มีวิธียังไง ถูกต้องไหม ผมจะคอยตรวจให้ครับ จากที่เคยตรวจการบ้านนักเรียน ตอนนี้ก็มาตรวจการบ้านในตลาดหุ้นแทน

 

ปัจจุบันคิดว่าตัวเองถนัดกับการลงทุนแบบไหน หรือคิดว่าจริตการลงทุนของเราคืออะไร  จากการเรียนรู้มาตลอด 10 ปี อะไรที่ยังทำให้ยังแฮปปี้กับการลงทุนคะ

ปัจจุบันก็ยังชอบการเล่นแบบระยะสั้นอยู่นะ เป็นจริตที่ติดมาตั้งแต่ครั้งแรกๆ แก้ปัญหาโดยการแบ่งพอร์ตการลงทุนให้ชัดเจน พอร์ตใหญ่คืออยู่ในกลุ่มหุ้นที่เติบโต ตัวที่เล่นสั้น ตรงจริตกับเราก็จะเป็นการตั้งเป้าว่ารอบนี้เราจะขายเท่าไหร่ จริงๆราคาตัวหุ้น ไม่มีใครรู้ว่าจะจบที่ราคาไหน เราจะตั้งเป้าว่าแต่ละรอบที่เราเข้า เราจะได้กำไรที่เท่าไหร่ แล้วเราก็ออกตามนั้น มันทำให้เราอยู่อย่างมีความสุขได้ เพราะตัวเราเอง เราก็ชอบแบบนี้ ทำให้เราอยู่ในตลาดได้อย่างสนุกทุกวัน

 

ฝากอะไรถึงนักลงทุนหน่อยค่ะ

ฝากถึงเพื่อนๆที่เริ่มอยากลงทุนในตลาดนะครับ อับดับแรกคือตั้งเป้าหมายในการลงทุนก่อนเลย พอเรามีเป้าหมายแล้วเราจะมองหาความสำเร็จอ ทำให้เรามีทิศทาง ว่าเราจะเดินไปทางไหน จะได้เลือกช่องทางการลงทุน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้น ผมเชื่อว่าในยุคปัจจุบัน ยังไงทุกคนก็ต้องลงทุนครับ อัตราดอกเบี้ยลดลงทุนวัน อัตราเงินเฟ้อเฟ้อก็ขึ้นทุกวันเงินที่ฝากจะลดค่าลงเรื่อยๆ มีผลวิจัยว่า 10 ปี ที่ผ่านมาตลาดหุ้นให้ผลตอบแทน 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นทองคำ และเป็นพวกพันธบัตร ยังไงเราก็หนีการลงทุนไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบไหนะ ธุรกิจตัวเอง ในหุ้น หรืออะไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเราก็หนีการลงทุนไม่พ้นครับ

 

 

==============================
 

ถ้า..อยากเรียนรู้ 'การเทรด ท อ ง เก็งกำไรกับ อ.ต๋อม แบบเน้นๆ

' รู้ ค ร บ แ ล ะ ง่ า ย ทำกำไร เป็น ทั้ง *Gold Online และ *Gold Future 

วันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ 29-30 ส.ค.นี้ 2 วัน ( เวลา 9.30 -12.30 น. )

อย่าพลาด !! ..เรียนออนไลน์สดผ่าน  Zoom 

ดูรายละเอียดสมัครเลยที่.. >> https://bit.ly/3addTEP


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง