#แนวคิดด้านการลงทุน

พิมพ์เขียวทางการเงิน by “พอล ภัทรพล”

โดย ภัทรพล ศิลปาจารย์
เผยแพร่:
108 views

ผมคิดว่าเรื่องนี้สําคัญมากๆ เพราะว่าต่อให้ คุณเรียนเก่งหรือว่าทํางานหนักแค่ไหนถ้าพิมพ์เขียวทางการเงินคุณแย่ ไม่ต้องถึงขั้นมีอิสรภาพทางการเงินหรอกครับ แค่รวยยังยากเลยครับ!

เหมือนกับการสร้างบ้าน การสร้างบ้านนั้น ต้องมีพิมพ์เขียวเหมือนกัน ถ้าพิมพ์เขียวผิด ไม่ว่าจะสร้างบ้านยังไงก็ออกมาผิดเสมอ ถ้าพิมพ์เขียวทางการเงินของคุณผิด การเงินของคุณก็จะผิด ตลอดไป

สังเกตมั้ยครับว่าทําไมคนที่รวยก็รวยเอาๆ ส่วนคนจนไม่ว่าจะทําอะไรก็ไม่สามารถขยับฐานะ ไปกว่านี้ได้ ก็เพราะ Financial Blueprint หรือ Thermostat ของเค้าเซ็ตไว้เพียงแค่นี้นั่นเอง

พอพูดถึงเรื่องนี้ ผมนึกถึงเรื่องของ โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีพันล้าน (Billionaire) ด้านอสังหาริมทรัพย์ของอเมริกา ครั้งนึงเค้าล้มละลายจากหนี้เงินกู้ 2 พันล้านดอลล่าร์ แต่ในเวลาไม่นานเค้าก็กลับมาเป็น Billionaire ได้อีกครั้งถามว่าเพราะอะไร? ก็เพราะว่า Thermostat ของเค้าถูกเซ็ตไว้สูงไงครับ

พอล ภัทรพล

โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเคยฟ้องหนังสือพิมพ์เล่ม นึ่งเป็นจํานวนเงินถึง 500 ล้านเหรียญ โทษฐานที่ เรียกเค้าว่า Milionaire เพราะเค้าบอกว่าตัวเค้าเป็น Billionaire ต่างหาก

ส่วนคนที่ถูกหวยสิบล้านยี่สิบล้าน แต่ผ่านมา ไม่กี่ปีเค้าก็กลับมาจนอีกครั้ง นั่นก็เพราะ Financial Blueprint หรือ Thermostat ของเค้าถูกเซ็ตไว้ให้จน

ลองสังเกตดูว่าต่อให้มีเงินมากแค่ไหน คุณก็จะลงทุนผิดที่ผิดทางอยู่เรื่อยๆ มันไม่ใช่ว่าคุณดวงไม่ดีที่คุณลงทุนผิดหรือตัดสินใจพลาดหรอกครับ แต่คุณถูกโปรแกรมให้คุณแพ้ทางด้านการเงินมาตั้งแต่ แรกแล้ว

ใครยังไม่เคยอ่านหนังสือ “ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน” ของ T.Harv Eker ผมอยากให้ลอง อ่านดู เพราะมันจะช่วยเรื่องนี้ได้ดีมากๆ เพราะถึง คุณจะอ่านหนังสือผมจบ รู้วิธีหาเงินจากหลายช่องทาง แต่ถ้า Financial Blueprint ของคุณถูกเซ็ตมา ว่าจน คุณก็ไม่มีวันรวยได้

บางคนอาจคิดว่าคนรวยส่วนใหญ่เป็นคนไม่ดี เพราะเคยเห็นคนรวยไม่ดี ชอบเอาเปรียบ แต่ผมอยากจะถามกลับว่า แล้วคุณเคยเห็นคนจนขี้โกง รึเปล่า?

คนจนที่เป็นคนไม่ดีก็มี คนรวยที่เป็นคนไม่ดีก็มี นั่นแปลว่า ดี เลว รวยหรือจน ไม่เกี่ยวกัน

มันเป็นเรื่องเดียวกันที่ว่าถ้าคุณไม่ชอบสุนัข คุณจะไม่เลี้ยงสุนัข ถ้าคุณหมั่นไส้คนรวย คุณก็จะไม่มีวันรวย คุณไม่สามารถเป็นในสิ่งที่คุณไม่ชอบได้ และคุณไม่สามารถมีในสิ่งที่คุณหมั่นไส้ได้

ผมเองก็เคยมี Financial Blueprint อีกแบบ นะครับ (Thermostat ต่ำกว่านี้ด้วย)

เมื่อก่อนผมคิดว่าเงินไม่ดี ทําให้คนทะเลาะกัน คนรวยขี้อวด คนรวยรวยได้เพราะโกงคนจนมา เมื่อก่อนพอเห็นรถซูเปอร์คาร์คันละ 20-30 ล้านขับผ่าน ผมจะคิดเลยว่าคนซื้อรถแบบนี้ได้ ไม่ใช่มีเงิน อย่างเดียว แต่ต้องโง่ด้วย 555

เป็นไงครับ ฟังดูคุ้นๆมั้ยครับ? เมื่อก่อนนี้ผมหาเงินมาได้เท่าไหร่ ผมก็จะกําจัดมันทิ้ง เนื่องจากเงินสําหรับผม มีค่าเท่ากับไม่ดี ขี้โกง ซื้อวด

ดูสมการนี้ดีๆ นะครับ

เงิน = อวดโกง (เราไม่ชอบอวดและโกงใคร)

เพราะฉะนั้น ผมก็เลยไม่อยากมีเงิน ก็เลยกําจัดมันทิ้งด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ซื้อคอนโด ลงทุนหุ้นกับเพื่อนทําธุรกิจ ซื้อหุ้นผิดตัว ฯลฯ สุดท้ายเงินเก็บก็เลยน้อยมาก เพราะถูกโปรแกรมมาแบบนี้

แต่ตอนนี้ผมหายแล้วนะครับ

ตอนนี้             

เงิน = ดี (เราอยากเป็นคนดีมาก เราก็เลยอยากมีเงินมาก)

หลายคนไม่รู้เรื่องพวกนี้ก็เลยเกิดปัญหาการเงินทั้งชีวิต

เงินไม่ได้สําคัญที่สุดในชีวิตหรอกครับ มัน สําคัญแค่ตอนต้องใช้ แล้วมันต้องใช้ตอนไหนบ้าง ครับ?

ก็ทุกตอนนั่นล่ะครับ!! การศึกษาใช้เงินมั้ย? สร้างถนนใช้เงินมั้ย? สร้างวัดใช้เงินมั้ย? รักษาพยาบาลพ่อแม่ใช้เงินมั้ย? ทุกอย่างใช้เงินหมดครับ

เพราะฉะนั้นมาเปลี่ยน Financial Blueprint กันมั้ยครับ?

เงินมาก = ช่วยคนได้มาก

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่คือบทความส่วนหนึ่งของหนังสือ เหนื่อยชั่วคราวสบายชั่วโคตร ถ้าคุณกำลังมองหาหนังสือที่จะทำให้คุณ

ตอบโจทย์ของคำว่า "การเกษียณที่รวดเร็ว" พร้อม "อิสรภาพการเงิน"  ได้อย่างตรงใจ หนังสือเล่มนี้จะเป็นคำตอบที่คุณต้องการครับ

สนใจสั่งซื้อได้ที่ https://www.stock2morrow.com/publishing/bookdetail.php?id=136

พอล ภัทรพล


คูณพอล ภัทรพล เรียนจบ MBA ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งยังจบด้านอสังหาริมทรัพย์ กับ RE-CU (Real Estate Chulalongkorn University) ควบคู่ไปด้วย

ในด้านการทํางาน พอลถือเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เป็น Triple Threat ของวงการบันเทิง คือ ทําครบ 3 อย่าง ทั้งนักแสดง พิธีกร และนักร้อง

พอลรับรางวัลมามากมาย อาทิ รางวัลศิลปินธรรมทูตทูตดาราเพื่อ คุณธรรม และรางวัลผู้ดําเนินรายการประเภททีมดีเด่น จากรายการ วีไอพี จากรางวัลโทรทัศน์ทองคํา ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2552 อีกด้วย

ในด้านธุรกิจ พอลมียอดธุรกิจเกินพันล้านบาทต่อปี และเกษียน จากงานได้ตั้งแต่อายุ 35 ปี หลังเกษียณพอลทํา Action For Passion และ ลงทุนใน Start Up ในฐานะ Angel investor เขียนและสอนวิธีเกษียณเร็ว ฯลฯ

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง