เหมือนจะกลับมาเป็นประเด็นกันอีกครั้งกับคำว่า "Window Dressing" ที่กำลังจะมาเป็นสตอรี่ตัวใหม่ให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง หลังจากการเข้ามาอย่างหนักโดย Fund Flow ของต่างชาติ มาในครั้งนี้กองทุนขอรับบทบาทสานต่อให้หุ้นไทยวิ่งต่อเอง

ว่าแต่ความหมายของ Window Dressing มันคืออะไร และทำให้หุ้นขึ้นได้จริงๆเหรอ ? วันนี้เราจะมาไขคำตอบกันครับ

เวลาที่เราพูดถึง Window Dressing เรามักจะเข้าใจว่า คือ พฤติกรรมของกองทุนที่กำลังจะเข้ามา "ซื้อ" หุ้น ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกได้ โดยปกติแล้วนักวิเคราะห์มักจะพูดคำว่า Window Dressing เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้กับรายย่อยว่าให้ "ซื้อ" หุ้นก่อนกองทุนจะเข้ามาซื้อ เพื่อทำกำไรระยะสั้น

ในตลาดหุ้นต่างประเทศก็มีประโยคคล้ายๆลักษณะนี้เช่นเดียวกัน เช่นตลาดหุ้นอเมริกา อาจจะใช้คำว่า "Santa Class Rally" ซื้อจะเป็นการซื้อ "ครั้งสุดท้าย" ของกองทุนในช่วงปลายธันวาคม ก่อนที่ผู้จัดการกองทุนจะลาหยุดยาว ว่ากันว่าเป็นของขวัญจากลุงซานต้ามอบให้กับนักลงทุนนั้นเอง

จริงๆแล้วกองทุนจะทำ Window Dressing ไปทำไม ? เพราะต้องการให้หุ้นขึ้น เมื่อหุ้นขึ้นสินทรัพย์ของกองทุนจะเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ NAV เพิ่มสูงขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับ Benchmark แล้วจะทำให้ Performance ของกองทุนออกมาดูดี การเสนอขายครั้งต่อไปก็จะง่ายขึ้น แน่นอนว่านักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนจำเป็นจะต้องดู Performance ของกองทุนแน่นอนอยู่แล้ว และคงไม่มีใครเลือกกองทุนที่ Performance ติดลบ นั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า Window Dressing โดยปกติแล้วเป็น "เทศกาล" ที่ทำกันทุกๆไตรมาส บางกองทุนอาจจะทำทุกๆ 6 เดือนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนนั้นๆ ที่ผ่านมารัฐบาลส่งเสริมให้คนลงทุนใน LTF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีและช่วยในเรื่องการออมเงิน ยิ่งทำให้ Window Dressing เด่นชัดขึ้นมาก

== คำถามสำคัญ คือ Window Dressing ทำให้หุ้นขึ้นจริงหรือ ==
เรามาดูบททดสอบย้อนหลังกันครับ ลองมาใช้ข้อมูล 4 ปีย้อนหลังดูว่าปิดไตรมาสจะทำให้หุ้นขึ้นหรือลงอย่างไร

จากภาพจะเห็นได้ว่าส่วนที่แรเงา คือช่วงปิดไตรมาสและเป็นจังหวะที่กองทุนมีโอกาสทำ Window Dressing และส่วนที่แรเงาสีเขียว (หุ้นขึ้น) มีมากกว่าส่วนที่แรงเงาสีแดง (หุ้นลง) และส่วนที่แรเงาสีเทา (หุ้นไซด์เวย์) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การทำ Window Dressing มี "ความน่าจะเป็น" ว่าหุ้นมีโอกาสขึ้นมากกว่าหุ้นลง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลย้อนหลังเป็นเพียง "ความน่าจะเป็น" เท่านั้น ในปัจจุบันกองทุนไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก และผู้จัดการกองทุนแต่ละคนย่อมมีแนวคิดที่ไม่เหมือนกัน กองทุนอาจจะไม่จำเป็นต้องทำ Window Dressing ก็ได้ หรืออาจจะถือโอกาส "ขาย" ทำกำไรเพราะเล็งเห็นว่าเป็นช่วงที่หุ้นขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ นักลงทุนรายย่อยต้องวางแผนและศึกษาตลาดให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้งครับ

สรุปแล้ว การทำ Window Dressing มี "ความน่าจะเป็น" ที่หุ้นขึ้นมากกว่าหุ้นลง แต่ช่วงหลังมานี้กองทุนไทยใหญ่ขึ้นมา ซึ่งแต่ละกองก็มีแนวคิดที่แตกต่างกัน เราจะคาดหวังว่าช่วงปิดไตรมาสเป็นช่วงที่หุ้นขึ้น "แน่นอน" อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเท่าไรนัก