
“เราเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยพื้นฐานการเชื่อมต่อโครงข่ายการสื่อสารทั้งในประเทศและระดับโลก”
บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC ผู้ให้บริการด้านโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทย ก่อตั้งโดยทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีประสบการณ์การทำงานในธุรกิจโทรคมนาคมในด้านการให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงมากกว่า 20 ปี โดยใช้โครงข่ายใยแก้วนำแสง หรือไฟเบอร์ออพติกเป็นโครงข่ายหลักในการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ หุ้น SYMC จึงเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจับตา
“ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบและเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจโทรคมนาคมเข้าสู่ยุค 5G ดังนั้นการขยายตัวด้านความต้องการในการติดต่อสื่อสารจึงไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น หากแต่ยังมีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตตามไปด้วย” คุณอเล็กซ์กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ
โครงข่ายการให้บริการระหว่างประเทศ
พันธมิตรหลักทางธุรกิจ : TIME dotCom
คุณอเล็กซ์เปิดเผยว่าปัจจุบัน TIME dotCom เป็นผู้ถือหุ้นหลักของ SYMC ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายในการขยายฐานธุรกิจไปยังลูกค้าองค์กร และสิ่งที่ได้มากกว่าการร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้คือ TIME dotCom สามารถช่วยเราพัฒนาบริการต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้นเพื่อนำมาให้บริการกับลูกค้า เนื่องจาก TIME dotCom คือบริษัทผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศมาเลเซีย ซึ่งให้บริการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงให้บริการธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าทั้งสองบริษัทมีทิศทางในการดำเนินธุรกิจที่เหมือนกัน คือต้องการยกระดับการบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของภูมิภาคอาเซียนไปสู่ผู้ให้บริการอื่นๆ ทั้งในทวีปยุโรป เอเชีย อเมริกา และทรานส์แปซิฟิก
“ภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV กำลังเติบโตและก้าวสู่ยุคดิจิทัล การให้บริการโครงข่าย 4G และ 5G มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการใช้งานในตลาดสูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการด้าน OTT,Facebook, Google, YouTube ที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพและรวดเร็วเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ปัจจุบันการวางโครงข่ายใยแก้วนำแสงทั่วประเทศของ SYMC มีระยะทางมากกว่า 23,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 50 จังหวัดเศรษฐกิจหลักทั่วประเทศ อีกทั้งยังสามารถให้บริการในอาคารสำนักงานชั้นนำในกรุงเทพฯ กว่า 113 แห่ง นิคมอุตสาหกรรม 46 แห่ง และศูนย์บริการของบริษัท 18 สาขาทั่วประเทศ สำหรับบริการระหว่างประเทศ ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อบริการผ่านเกตเวย์ภาคพื้นดิน 5 แห่ง ไปยังมาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา และสปป.ลาว นอกจากนั้น SYMC ยังเป็นบริษัทเอกชนรายแรกและเป็นเพียงรายเดียวที่ลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำและเป็นเจ้าของสถานีเคเบิลใต้น้ำ (ภายใต้โครงการ MCT Submarine Cable System) ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของ SYMC ในด้านการเป็นผู้นำในการบริการเชื่อมต่อโครงข่ายการสื่อสารสำหรับภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี
การให้บริการของ SYMC
ขยายฐานลูกค้าองค์กรเพื่อสร้างการเติบโต
บริการของ SYMC ประกอบด้วย
1. บริการโครงข่ายภายในประเทศให้กับลูกค้ากลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัย และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่และธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น
2. บริการโครงข่ายระหว่างประเทศให้กับผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำของโลก ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระดับภูมิภาค และธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น
3. บริการอินเทอร์เน็ต
4. บริการเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับบริการด้านโครงข่ายและการบริหารจัดการระบบสารสนเทศแบบครบวงจร
คุณอเล็กซ์อธิบายเพิ่มเติมว่าในขณะนี้บริษัทเน้นการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรเพราะเชื่อว่ามีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากหลายกลุ่มธุรกิจมีการขยายตัวและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทให้เติบโต นอกจากธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้ว อีกหลายธุรกิจก็จำเป็นต้องพึ่งพาโครงข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีคุณภาพสูงในการพัฒนาการบริการให้กับลูกค้าเพื่อให้จัดการกับธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างดี อย่างเช่น โลจิสติกส์ โรงพยาบาล โรงแรม โรงงาน ผู้ผลิตสินค้าซึ่งจะต้องนำเทคโนโลยี IoT มาปรับใช้เพื่อสนับสนุนบริการใหม่ๆ ให้เข้ากับยุคสมัย
“การใช้งานโครงข่าย 4G และ 5G รวมถึง IoT และ AI เป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้า และจะส่งเสริมธุรกิจของเราให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"
“เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานรากที่มั่นคงเพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ”
โครงข่ายการให้บริการ
"เทคโนโลยีคือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ เราจึงมุ่งมั่นในการสร้างฐานรากที่มั่นคงเพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ"
มองการณ์ไกลเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
สำหรับเป้าหมายของ SYMC ในอีก 3-5 ปีต่อจากนี้คือการเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตจะเน้นเรื่องการขยายโครงข่ายบริการให้ครอบคลุมพื้นที่หลักทางเศรษฐกิจให้มากที่สุดและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนั้นบริษัทยังให้ความสำคัญในเรื่องทรัพยากรบุคคล ด้วยการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานที่มีมากกว่า 400 คน จากการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถผ่านการฝึกอบรมและมอบโอกาสในการพัฒนาทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพและสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และส่งเสริมให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนร่วมกัน
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนคิดบวกและเปิดรับความคิดเห็นใหม่ๆ ปรับให้เข้ากับทีมงานบริหารในการทำงานวัฒนธรรมองค์กรของเราเปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งผมคิดว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การมีทัศนคติที่ดีอันจะส่งเสริมให้เราสามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้แน่นอน”
เมื่อถามถึงความแข็งแกร่งของหุ้น SYMC คุณอเล็กซ์กล่าวว่าบริษัทยังคงเติบโตได้อีกมากอันเกิดจากรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่งของบริษัท รวมถึงวิสัยทัศน์และความตั้งใจที่แน่วแน่ของทีมผู้บริหาร จากสิ่งที่บริษัทได้ดำเนินการมาจวบจนปัจจุบันทำให้คุณอเล็กซ์เชื่อมั่นว่า สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความแข็งแกร่ง’ ของหุ้น SYMC ในระยะยาวที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน
การให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
"การใช้งานโครงข่าย 4G และ 5G รวมถึง IoT และ AI จะเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้า และจะส่งเสริมธุรกิจของเราให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"
4 บริการหลักของ SYMC

LIST OF STRENGTHS

ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือ Stock Guide 2019-2020 ดาวน์โหลด E-Book ฉบับเต็ม ฟรีได้ที่ >> http://bit.ly/2WNQiHi
.jpg)