“ก้าวที่แกร่งและเร่งการเติบโตของ CWT ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจใหม่ พลังงานหมุนเวียนและนวัตกรรมยานพาหนะ เรือ และรถอะลูมิเนียม”
บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2515 ดำเนินธุรกิจฟอกหนังและจำหน่ายหนัง กว่า 47 ปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จอย่างดี ด้วยบทพิสูจน์จากผลกำไร 74 ล้านบาท ในปี 2561 ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุคทายาทรุ่นที่ 2 ภายใต้การบริหารของ วีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ CWT ก็ถึงจุดเปลี่ยน มุ่งหาธุรกิจเติบโตสูง และหนึ่งในนั้นคือธุรกิจพลังงานและจัดจำหน่ายยานพาหนะ
“ถ้าทำธุรกิจฟอกหนังและผลิตผลิตภัณฑ์หนังต่อไป มันก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ แบบไม่หวือหวา สำหรับผมแล้วรู้สึก ‘ไม่ท้าทาย’ เลย ดังนั้น เราต้องมองหาการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับ CWT ในระยะยาว” วีระพลกล่าว
ในปัจจุบันนี้ CWT จึงมี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง กลุ่มพลังงาน และกลุ่มออกแบบและจัดจำหน่ายยานพาหนะ
โรงงานไฟฟ้าชีวมวล บริษัท กรีน เพาเวอร์ 2 จำกัด บริษัทย่อยของ บริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด
ธุรกิจพลังงาน ‘Growth Engine’ ตัวใหม่
วีระพลเล่าว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์หนังเป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตหนังสัตว์ฟอก ของเล่นสัตว์เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์หนังและเบาะหนัง รวมถึงชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ ปัจจุบันมี 2 โรงงาน ในประเทศไทยอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ แม้ธุรกิจนี้จะสามารถสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับบริษัทมาตลอดกว่า 4 ทศวรรษ แต่เขาเชื่อว่า วันหนึ่งก็อาจถึงทางตันได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มในระยะยาว และธุรกิจที่ทายาทรุ่น 2 ให้ความสนใจมากที่สุดคือ ธุรกิจพลังงาน
“สำหรับธุรกิจพลังงาน บริษัทจะเน้นลงทุนในพลังงานทางเลือก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหตุผลที่เลือกเพราะไม่เพียงเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและเติบโตสูง แต่ยังเป็นประโยชน์กับ ‘สังคม’ อีกด้วย โดยส่วนตัวแล้วผมตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมาตลอด โดยเฉพาะช่วงที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากค่า PM 2.5 เราจึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดีของบริษัทที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้” วีระพลกล่าว
แม้ไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจพลังงานมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เพราะวีระพลยืนยันว่าทุกธุรกิจสามารถเรียนรู้กันได้ และหากตั้งใจ จริงใจ ก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน เมื่อปี 2559 บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จึงนำทีมก่อตั้งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด เพื่อทำธุรกิจพลังทดแทนอย่างเต็มตัว ผ่านทั้งการตั้งบริษัทลูก ทั้งการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทต่างๆ ปัจจุบันมี 8 บริษัทในเครือ อย่างเช่นในปี 2560 เข้าซื้อหุ้น 9.09% ในบริษัท รักษ์บ้านเรา จำกัด เพื่อดำเนินโครงการรับขยะและผลิตกระแสไฟฟ้าจากไบโอแก๊ส ตั้งอยู่ที่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
“ธุรกิจพลังงานทางเลือกของผมเริ่มจากขยะ เพราะเห็นกองขยะทุกวัน อยู่ใกล้ตัวพวกเรามาก ผมอยากกำจัด จึงคิดหาทางออก และก็ได้ค้นพบ นั่นคือนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า หรือคัดแยกขยะและจัดการขยะเพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้า ซึ่งก่อเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสังคมได้”
SAKUN C ยานพาหนะสัญชาติไทย
กลุ่มธุรกิจออกแบบและจัดจำหน่ายยานพาหนะ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจใหม่ที่ CWT ให้ความสนใจ โดยมีจุดมุ่งหมายต้องการเห็นยานพาหนะสัญชาติไทยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมวิ่งโลดแล่นอยู่บนถนน ด้วยเหตุนี้ในปี 2561 บริษัทจึงได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ของกลุ่มบริษัทโชคนำชัย ในสัดส่วนที่ 50.01% ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ดำเนินธุรกิจรับออกแบบและผลิตเรืออะลูมิเนียม รวมทั้งอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจด้านการผลิตไมโครบัส
วีระพลบอกว่า รถไมโครบัสที่ผลิตภายใต้บริษัทนี้ เป็นรถมินิบัสอะลูมิเนียมขนาด 20 ที่นั่ง ภายใต้แบรนด์ SAKUN C ซึ่งเป็นที่ต้องการในภาคการขนส่งผู้โดยสาร เนื่องจากเป็นรถที่จะนำมาทดแทนการใช้รถตู้โดยสาร หลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบายยกเลิกการใช้รถตู้ที่มีอายุเกิน 10 ปีวิ่งรับผู้โดยสารซึ่งปัจจุบันมียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 200 คัน และจะมีการส่งมอบในปลายปีนี้ อนาคตบริษัทหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งการตลาดราว 25% จากตลาดที่มีอยู่ราว 20,000 คัน
สัดส่วนรายได้ปี 2561 (ล้านบาท)
"บริษัทเน้นลงทุนในพลังงานทางเลือก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไม่เพียงเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและเติบโตสูง แต่ยังเป็นประโยชน์กับสังคมอีกด้วย"
นอกจากนี้ สกุลฎ์ซียังจับมือกับบริษัท อะเมซิ่ง บัส ทัวร์ จำกัด ที่ให้บริการกับบริษัท Hop-On Hop-Off แห่งแรกในกรุงเทพฯ โดยจะปรับปรุงรถ 12 คัน ที่ใช้อยู่ให้เป็นรถบัสไฟฟ้า (EV Bus) เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษทางอากาศในเมืองหลวง ตามนโยบาย Bangkok Green City ขณะที่การผลิตเรือ จากเดิมที่สกุลฎ์ซีผลิตเรืออะลูมิเนียมโครงสร้างชิ้นเดียวก็ได้พัฒนาเข้าสู่อุตสาหกรรมเรือรับนักท่องเที่ยวขนส่งผู้โดยสารอย่างเต็มตัว ทั้งนี้ยังมีแผนที่จะส่งเรือที่ผลิตได้ไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
รถบัสไฟฟ้า (EV Bus)
อนาคต CWT โตแข็งแกร่ง
วีระพลบอกว่า อนาคตยังเต็มไปด้วยโอกาส และสิ่งนี้จะส่งผลให้ CWT เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากการลงทุนของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเริ่มผลิดอกออกผล สามารถสร้างรายได้กลับมาสู่กลุ่มธุรกิจ ดังนั้น จึงมั่นใจว่า CWT จะเป็นหนึ่งใน ‘หุ้นแห่งอนาคต’ ที่น่าสนใจ โดยคาดว่าในปี 2564 รายได้จะทะยานขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท จากเดิมในปี 2561 มียอดรายได้อยู่ที่ 2.02 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 74.16 ล้านบาท
ผลประกอบการ

ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือ Stock Guide 2019-2020 ดาวน์โหลด E-Book ฉบับเต็ม ฟรี ได้ที่ >> http://bit.ly/2WNQiHi