#แนวคิดด้านการลงทุน

ตลาดหุ้นไทย ปี 2019-2020 ในมุมมอง Fundamental

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
90 views

ก่อนที่เราจะมองไปข้างหน้า ถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2019-2020 ผมอยากชวนท่านผู้อ่าน มาทำความเข้าใจอดีต ปีที่แล้วกันก่อน เพราะในปี 2018 จัดเป็นปีที่ไม่ดีนัก สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลกด้วย โดยที่ตลาดหุ้นไทย (SET) -10.8% เล่นเอานักลงทุนรายย่อยถอดใจกันไปเยอะ ส่วนตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่อื่นๆ หรือแม้แต่ตลาดพัฒนาแล้ว ต่างก็ให้ผลตอบแทนติดลบ แดงกันหมดอย่างทั่วถึง

 

ถามว่าสาเหตุสำคัญของการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลกในปีที่แล้วคืออะไร ... ผมคิดว่าเหตุผลหลักมาจาก 3 เรื่องใหญ่ คือ หนึ่ง..การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด สอง...ความกลัวเรื่องนโยบายปรับลดสภาพคล่อง จากการทำ Quantitative Tightening (QT) ของธนาคารกลางทั่วโลก และ สาม...สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ทั้งสามข้อเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบทั้งความเชื่อมั่นนักลงทุน สภาพคล่องในระบบ และแนวโน้มเศรษฐกิจระดับมหภาค

 

หากเราจะมองไปข้างหน้า ถึงแนวโน้มภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2019-2020 ก็ต้องตั้งคำถามใหญ่ว่า ปัจจัยลบในปีที่แล้ว ยังคงมีแนวโน้มที่จะแย่ลงต่อเนื่อง หรือ จะดูดีขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวมีมุมมองว่า ปัจจัยลบต่างๆ ตลาดได้รับรู้จุดเสี่ยงที่สุดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ที่ปีนี้จะไม่ขึ้นบ่อยครั้งอย่างปีที่แล้วแน่นอน ... ส่วนเรื่อง QT และเรื่องสงครามการค้า ปี 2019 ก็มีแนวโน้ม ไปในทิศทางคลี่คลายลงมาก มีทีท่าผ่อนปรน ไม่กดดันรุนแรงเหมือนปลายปีก่อน

 

ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ปี 2018 เราถูกนักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขายอย่างต่อเนื่อง โดยขายไปมากมายถึง 2.87 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิหุ้นไทยเป็นปีที่ 5 จาก 6 ปีล่าสุด นับเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ทลดการถือครองหุ้นไทยมากมายอย่างมีนัยสำคัญ ...คำถามใหญ่คือ ใน 1-2 ปีข้างหน้า คิดว่า โอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายอย่างหนักต่อเนื่อง หรือโอกาสจะชะลอการขายกระทั่งกลับมาซื้อ...โอกาสไหนมีมากกว่า?  ซึ่งไม่มีใครรู้คำตอบ ได้แต่ประเมินในใจแล้วตัดสินใจไปตามนั้น สิ่งเหล่านี้ จะมีผลต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2019-2020 อย่างมีนัยสำคัญ

 

SET50 และวิธีเลือกหุ้นที่น่าสนใจ

ที่เล่าให้ฟังเรื่องตลาดหุ้นไทยปี 2018 ซึ่ง SET ในภาพรวมลดลงถึง -10.8% แต่ท่านเชื่อหรือไม่ ว่าหุ้นตัวกลางตัวเล็กหลายตัวนอก SET50 ลงหนักมากในระดับ 30-50% ในขณะที่หุ้นตัวใหญ่ใน SET50 กลับเป็นกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงไม่มาก พบว่าดัชนี SET50 ลดลงประมาณ -6% เท่านั้น ยิ่งเมื่อคำนึงถึงเงินปันผลในระดับ +3% ด้วยแล้ว ทำให้ผู้ถือครอง SET50 ในปีที่แล้วแทบไม่รู้สึกถึงการลดลงของตลาดหุ้นเท่าใดเลย

 

ผมคิดว่า การลงทุนในหุ้น SET50 น่าจะให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาว หุ้นกลุ่มนี้เปรียบเสมือนนักเรียนห้องคิง 50 คน ที่มีผลการเรียนโดดเด่นกว่านักเรียนทั้งระดับ เป็นหุ้นที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ 50 ตัวแรก มีสภาพคล่อง เป็นเป้าหมายการลงทุนของทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้นมาก

 

หุ้นใน SET50 มีความเป็นหุ้นสามัญประจำบ้านอยู่หลายตัว เช่น กลุ่มพลังงาน (PTT,PTTEP,PTTGC) กลุ่มธนาคาร(BBL.KBANK,SCB) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC,DTAC,INTUCH) กลุ่มค้าปลีก (CPALL,BJC,HMPRO,GLOBAL) กลุ่มขนส่ง(AOT,BEM,BTS) กลุ่มอาหาร (CPF,TU) กลุ่มไฟฟ้า (RATCH,EGCO,GPSC) เป็นต้น หุ้นเหล่านี้หลายตัวมีปันผลที่ดี หลายตัวมีผลประกอบการที่เชื่อใจได้ หลายตัวมีความแข็งแกร่งผูกขาด/กินขาด หลายตัวยังมีการเติบโตที่ดีในอนาคต และหลายตัวจะอยู่ยั้งยืนยงคู่เศรษฐกิจไทยไปอีกนานเท่านาน

 

วิธีการเลือกหุ้น เราควรต้องเลือกกิจการที่เราเข้าใจ ว่าทำมาหากินอย่างไร อนาคตจะโดนคู่แข่งที่ไหนมาเบียดเบียนหรือไม่ และจะเติบโตต่อไปได้ด้วยอะไร ฯลฯ คำถามเหล่านี้ นักลงทุนต้องวิเคราะห์ หาคำตอบด้วยตนเองให้ได้ เมื่อเรามีความเข้าใจหุ้นที่เราลงทุนเป็นอย่างดี เราจะกล้าถือต่อในยามที่ราคาหุ้นเพิ่ม (แต่ยังคงเติบโตได้อีกไกล) และกล้าถัวเพิ่ม ในยามหุ้นราคาลง (แต่พื้นฐานและอนาคตกิจการยังคงยอดเยี่ยม) หุ้นใน SET50 ทุกตัว ในเชิงราคาต่างก็มีช่วงเวลาที่ดี และช่วงเวลาที่แย่ ไม่ว่าพื้นฐานกิจการจะยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม โอกาสในการลงทุนจึงมีอยู่เสมอ

 

Do & Don’t  ของนักลงทุนสาย VI   

 

เคล็ดลับการลงทุนน่ารู้

เคล็ดลับของผม มาจากอาจารย์ปู่ วอเรน บัฟเฟตต์  ที่ช่องข่าวการเงินระดับโลกอย่าง CNBC เคยเชิญมาสัมภาษณ์ในช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดี เมื่อประมาณหลายปีที่แล้ว เพื่อช่วยให้ข้อคิดนักลงทุนไม่ให้ตื่นตูมเกินไป สิ่งที่อาจารย์ปู่ บัฟเฟตต์ ให้สัมภาษณ์ ช่างเรียบง่าย และทรงพลัง ... ผมคิดว่านี่เป็นเคล็ดลับการลงทุนได้เลย มี 3 ข้อครับ

1. อย่าจ้องตลาดหุ้นให้มากไป (I would tell them don't watch the market closely)  

2. ซื้อแล้วถือ คือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด (Buy-and-Hold is the best strategy)

3. คนที่เป็นต้นเหตุทำให้ผลตอบแทนคุณแย่ คือตัวคุณเอง... (The only person that caused you bad result in stocks is "Yourself" )

 

ขอให้นักลงทุนทุกท่าน Stay Calm Stay Invest  … ลงทุนไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย  ขอให้โชคดีกับการลงทุน ตลอดปี 2019-2020 และตลอดไป

 

ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือ Stock Guide 2019-2020 ดาวน์โหลด E-Book ฉบับเต็ม ฟรี ได้ที่ >> http://bit.ly/2WNQiHi

 

 

 


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง