ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มกว่า 20 จุด ทะลุ 1,700 จุด AOT บวกเพิ่ม 8% รับรู้รายได้สัมปทานคิงพาวเวอร์ กว่า 2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 มิ.ย.2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 จุด มูลค่าซื้อขายกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ประกอบกับวันนี้มีแรงซื้อหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เข้ามาอย่างหนาแน่น ทำให้หุ้น AOT ปรับขึ้นราว 8% มูลค่าซื้อขาย กว่า 2.3 หมื่นล้านบาท

หุ้น AOT ปรับขึ้นมาก เนื่องจากวันนี้ ได้มีการประกาศให้บริษัท คิงพาวเวอร์ ชนะการประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินในภูมิภาค 3 แห่ง ด้วยมูลค่าผลตอบแทนตลอดอายุสัญญา 23,548 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในปื 2564

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หรือ AOT กล่าวว่า ทอท.จะมีรายได้จากการทำสัญญาครั้งนี้ 23,548 ล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 1 หมื่นล้าบาท เชื่อว่าการประมูลครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรและประเทศสูงสุด

บริษัท คิงพาวเวอร์ ได้สัมปทานทั้งหมดจากการเปิดประมูลของ AOT ทั้งการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ ร้านค้าปลอดภาษี หรือ ดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิและดิวตี้ฟรีอีก 3 สนามบินในภูมิภาค ซึ่งตลอดอายุสัมทาน 10 ปี ทอท.จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท

สำหรับผลการประชุมเฟดเป็นอีกปัจจัยที่มีผลกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะมีการประชุม 18-19 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดค่อนข้างรับรู้กับปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ทำให้มีผลต่อดัชนีไม่มากนัก

นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย กล่าวว่า การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดและการส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปด้วยการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ส่งผลเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้เฟดอาจจะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ในการประชุมเดือนก.ย. แต่ไม่น่าจะลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้ง อย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม สงครามการค้ายังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่เชื่อว่าหากสงครามการค้ามีผลต่อเศรษฐกิจมาก เฟดน่าจะมีมาตรการดูแล เพื่อพยุงเศรษฐกิจโดยรวมไม่ให้แย่ลง

สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 62 คาดว่ายังคงผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยสงครามการค้า ส่วนในประเทศคาดว่าไตรมาสที่ 3 จะดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล โครงการเมกะโปรเจกต์ วัสดุก่อสร้าง แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะชะลอตัวจากความล่าช้าของพรบ.งบประมาณประจำปี 2563

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย คาดว่าดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,720 จุด ปรับลดลงจากช่วงต้นปีที่คาดไว้ 1,740 จุด ขณะที่คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้น 8% P/E อยู่ที่ 16.5 เท่า