#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

เจาะหุ้นลงทุน S : สิงห์ เอสทเตท อสังหาที่กำลังจะเข้าสู่เฟดของการเติบโต

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
581 views

หุ้น S หรือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ชื่อนี้นักลงทุนอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนัก แต่ถ้าบอกว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นในเครือของกลุ่มบุญรอดเราอาจจะต้องกลับมามองใหม่อีกครั้งเพราะแต่ไหนมามักจะไม่ค่อยเห็นหุ้นของกลุ่มบุญรอดเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์สักเท่าไรนัก
แต่เดิมหุ้น S คือหุ้น RASA หรือ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ แต่ถูกกลุ่มสิงห์เข้าเทคโอเวอร์กิจการในลักษณะ Backdoor Listing และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ธุรกิจเดิมของ RASA คือทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรและอาคารชุด พอกลุ่มสิงห์เข้ามาซื้อกิจการก็ยังทำธุรกิจเดิมอยู่แต่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ คือใส่สินทรัพย์เข้ามา ธุรกิจโรงแรม ออฟฟิศให้เช่า ทำให้สินทรัพย์เติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

การเดินทางของหุ้น S มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในแต่ละปีไม่ว่าจะเป็นการทำบ้านเดี่ยวและคอนโดระดับหรู ธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวในประเทศอย่างเกาะพีพีและเกาะสมุย การเข้าซื้อกิจการโรงแรมในประเทศอังกฤษ 27 แห่ง เข้าซื้อโรงแรมกลุ่มเอาท์ทริกเกอร์ เข้าลงทุนในมัลดีฟท์ รวมถึงธุรกิจตึกออฟฟิศให้เช่าอย่างซันทาวเวอร์ซึ่งได้ขายเข้ากองทุน REIT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่แค่นั้นบริษัทยังเข้าถือหุ้น DAII และเนอวาน่า พร้อมรวมบริษัทเข้าด้วยกันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เนอวาน่าไดอิ" หรือตัวย่อหุ้นคือ NVD

เป้าหมายของ S คือการเป็น Holding Company อสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ..

 

 

แน่นอนว่าการเข้าซื้อกิจการแบบนี้ทำให้งบการเงินออกมาโตก้าวกระโดดจากหลักพันล้านบาทแตะระดับแปดพันกว่าล้านบาท พร้อมกับกำไรที่โตมากขึ้น แต่นั้นก็ไม่เพียงพอที่จะผลักดันราคาหุ้นให้กลับขึ้นไปได้จากระดับ 1 บาท ขึ้นมาที่ 12 บาท และลงมาแตะที่ 3 บาทต้นๆ

ในปี 2558 บริษัทมีรายได้ 2.3 พันล้านบาท ขาดทุน 261 ล้านบาท
ในปี 2559 บริษัทมีรายได้ 3.6 พันล้านบาท กำไร 170 ล้านบาท
ในปี 2560 บริษัทมีรายได้ 6.2 พันล้านบาท กำไร 571 ล้านบาท
ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ 8.9 พันล้านบาท กำไร 1.28 พันล้านบาท **

ที่ผ่านมาบริษัทยังไม่เคยจ่ายปันผลเลย จ่ายครั้งแรกในปี 2562 ที่อัตรา 1.14% เทียบกับราคาหุ้น ปัจจุบันหุ้น S เทรดกันที่ P/E 18.5 เท่า และ P/BV 1.37 เท่า

 

== โบรคเกอร์มองอย่างไร ==
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ "ทยอยซื้อสะสม" ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท โดยมูลค่าธุรกิจอสังหา 2.60 บาท/หุ้น และมูลค่าธุรกิจโรงแรมที่ 1.60 บาท/หุ้น พร้อมวิเคราะห์ว่า S เริ่มเข้าสู่ปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการลงทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานำโดยธุรกิจอสังหาและโรงแรมหนุนผลประกอบการตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้เป็นต้นไปจนถึงครึ่งหลังปีหน้า ขณะที่ธุรกิจโรงแรมจะได้รับแรงหนุนจากการเปิด 2 โรงแรมขนาดใหญ่ในมัลดีฟส์ในช่วงไตรมาส 4/62

อีกทั้งยังมีแผนขายหุ้นธุรกิจโรงแรมในเครือใช้ชื่อย่อว่า "SHR" เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดจะได้เงินประมาณ 5 - 6 พันล้านบาท จุดประสงค์หลักจะนำไปลดหนี้และเงินทุนสำหรับโครงการในอนาคต โดยจะผ่อนคลาย D/E ลดลงเหลือ 1.6 เท่า จากภาพรวมธุรกิจที่โตเด่น คาดจะหนุนกำไรปีนี้โตกว่า 160% แตะ 1.6 พันล้านบาท และโตต่อเนื่องอีก 30% ในปี 63

 

บล.ทิสโก้ ชี้แจงว่าการขยายการลงทุน S ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นผลเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่โครงการคอนโดต่าง ๆ ได้แก่ Esse Asoke, Esse @ Singha Complex, Banyan Tree The Residence, Santiburi Residence

รวมถึงจะมีรายได้ค่าเช่าจาก Singha Complex เข้ามาเสริมรายได้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หนุนกำไรหลักเติบโตก้าวกระโดด และมีแผนจะนำบริษัทลูกซึ่งมีธุรกิจโรงแรมที่มัลดีฟส์เข้าจดทะเบียนในตลาดภายในปลายปีนี้ แนะนำ "ซื้อ" ปรับเป้าพื้นฐาน 5.30 บาท (เดิม 5.10 บาท)

 

บล.คันทรี่ กรุ๊ป มองว่าบริษัทจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 หนุนโดยธุรกิจอสังหาที่มี Backlog กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมด 5 โครงการมูลค่ากว่า 2.1หมื่นล้านบาท รวมถึงธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวชัดเจน โรงแรมในมัลดีฟท์ที่เริ่มรับรู้รายได้ และประเด็นบวกที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ ธุรกิจโรงแรมเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใต้ชื่อ SHR ช่วงปลายปีนี้ แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 4.2 บาท

 

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า S เข้าสู่เฟดของการเติบโตจากการลงทุนที่ผ่านมาแล้ว 2-3 ปี นำโดยธุรกิจอสังหาและโรงแรม อีกทั้งประเด็นบวกของการขายหุ้น SHR อีก สิ่งสุดท้ายที่นักลงทุนเฝ้ามอง คือ ราคาหุ้นจะตอบสนองอย่างไร และขึ้นไปได้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆพื้นฐานของหุ้นมีอนาคตอย่างแน่นอน เพราะแค่ชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นักลงทุนก็มีความมั่นใจมากเพียงพอแล้ว


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง