มีคนเคยบอกว่า ในการลงทุน 10% คือเรื่องของเทคนิคหรือเครื่องมือ , 30% คือเรื่องของการบริหารเงิน และอีก 60% คือเรื่องของจิตวิทยาในการลงทุน
ผมกลับมานั่งคิดเรื่องประเด็นนี้เยอะมาก นั่งตีความว่าจิตวิทยาการลงทุนคืออะไร ทุกคนพูดว่าต้องมีจิตวิทยา แต่ไม่มีใครให้คำตอบว่าจิตวิทยาการลงทุนคืออะไร บอกแต่ว่าต้องเข้าใจสินค้าที่ลงทุน ต้องเข้าใจตัวเอง
แล้วจิตวิทยาการลงทุนที่มันจับต้องได้ล่ะ เป็นอย่างไร?
ผมจึงต้องมาตีความใหม่มาคิดได้ว่า Trading Psychology ไม่ได้แปลว่าจิตวิทยาการลงทุน แต่มันคือ ทัศนคติ ที่มีต่อการลงทุนต่างหาก มันคือการมองตลาดหรือสิ่งที่ทําว่าคืออะไร ถ้าเรามองว่าตลาดหุ้นคือบ่อน เดินเข้าตลาดก็เพื่อการพนัน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือเราจะได้บ้าง เสียบ้าง และเจ๊งในที่สุด แต่ถ้ามองตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือในการลงทุน เราจะได้ผลลัพธ์คือการสร้างความร่ำรวยในระยะยาวได้
ไม่มีใครบอกว่าจิตวิทยาที่ถูกต้องมันคืออะไร แต่สําหรับผมมันคือการเข้าใจตัวเอง เข้าใจในสินค้าและแนวทางที่เราใช้ลงทุนอย่างลึกซึ้ง และเหมาะสมกับตัวเรา ถ้าเราเข้าใจหลักการบริหารเงินได้ถูกต้อง วินัยในการลงทุนก็จะไม่ผิดประเด็น สุดท้ายถ้าเข้าใจจิตวิทยาถูกต้อง จะไม่มีการโอเวอร์เทรด ไม่มีการฝืนด้วย เราจะรู้ตัวว่ามีอันตรายแฝงอยู่ พอถึงจุด Stop Loss เราจะทําทันที เพราะเข้าใจอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะไม่ทําให้เราเจ๊งเป็น Damage Control เพียงแค่เสียไปบางส่วนเท่านั้น
หัวใจสําคัญของวินัยในการลงทุนเกิดจากความเข้าใจ ไม่ใช่การบังคับ ถ้าเราไม่เข้าใจมันสักวันเราก็จะทนไม่ได้ แล้วก็แหกกฏในที่สุด แต่ถ้าเกิดจากความเข้าใจ มันจะเป็นวินัยในตัวเอง
ผมมักจะถามคําถามสําคัญเยอะแยะในหัวเรื่องของกฏการลงทุน มีคนบอกว่าห้ามแหกกฏ แต่ผมชอบถามตัวเองว่ากฎมันเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่? คําถามต่อไปก็คือทําไมมีกฏแล้วเราไม่เข้าใจ? การที่เราไม่สามารถทําตามกฏได้ ในระยะยาวมันอาจจะไม่ได้มาจากฐานที่เหมาะสม หรือไม่ก็ลอกมาจากคนอื่นโดยไม่ได้พิจารณาว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่ก็ได้
การมีจิตวิทยาที่ดี ทําให้เรามีมาสเตอร์แพลนในการเทรด ทั้งหมดเป็นพิมพ์เขียวเดียว เช่น ต้องวางเงินอย่างไร วางระบบเทรดอย่างไร เอากําไรมาต่อยอดอย่างไร
***คนที่เห็นมากกว่า การตัดสินใจก็จะรัดกุมมากกว่า และจะปลอดภัยในการเทรดมากกว่า***