ตลาดซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์เบาบาง ต่างชาติขายเล็กน้อยกำไร บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 1,310.42 ล้านบาท หนุนดัชนีปิดบวก
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาด 7 มิ.ย.2562 ที่ระดับ 1,653.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด หรือ +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 36,707.98 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 293.47 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 645.78 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 371.18 ล้านบาทและบัญชีบล.ซื้อสุทธิ 1,310.42 ล้านบาท
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,466.50 ล้านบาท ปิด 47.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,454.90 ล้านบาท ปิด 125.00 ไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,311.40 ล้านบาท ปิด 66.00 บาท +1.00 บาท หรือ +1.54%
KTC มูลค่าการซื้อขาย 961.68 ล้านบาท ปิด 42.50 บาท -0.75 บาท หรือ -1.73%
SCC มูลค่าการซื้อขาย 905.45 ล้านบาท ปิด 460.00 บาท -2.00 บาท หรือ -0.43%
ภาวะตลาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่ได้รับแรงหนุนจากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยและอาจใช้มาตรการ QE อีกครั้ง รวมทั้งปัจจัยบวกจากสหรัฐอาจเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก ในสัดส่วน 5% ออกไปจากกำหนดเดิม ในวันที่ 10 มิ.ย.2562 นี้ ทำให้ภาวะตึงเครียดจากสงครามการค้าผ่อนคลายลง ขณะที่ ECB มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% จนถึงช่วงครึ่งปี 2563
สำหรับปัจจัยในประเทศมีความหวังกับการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมเร่งผลักดันโครงการลงทุน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะออกมาเพื่อสนับสนุนกำลังซื้อในประเทศ รวมทั้งมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้น KWG มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด มีปริมาณซื้อขาย 1,422,800 หุ้น ราคาเพิ่มขึ้น 12.08% หลังจากมีข่าวเตรียมแผนซื้อที่ดินกว่า 6,000 ไร่
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินแนวโน้มการลงทุน ในช่วงเดือนมิถุนายนว่า ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทย มีโอกาสฟื้นตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นภายในประเทศ โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็น Sentiment บวกมากขึ้น หากการจัดตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่น และมาจากเสียงข้างมาก จะทำให้มีเสถียรภาพในการบริหารงานและดำเนินนโยบายต่อเนื่อง พร้อมคาดว่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนจากภาคเอกชน คาด Fund Flow มีโอกาสไหลกลับต่อเนื่อง หลังการปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทย ของ MSCI มีผลเมื่อ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้คาดว่าการประชุม กนง. ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ทาง กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% โดยแนวโน้ม GDP ในไตรมาส 2/2562 มีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ที่ GDP ลงไปต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส อยู่ที่ 2.80% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งจับตาการทำ Window Dressing ก่อนปิดงยไตรมาส 2/2562 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนอีกด้วย