ในเกมส์กีฬามีคำที่เรียกว่า “ซูเปอร์ซับ” หรือ “Super sub”มาจากคำเต็มว่า Super Substitute ซึ่งหมายถึงผู้เล่นสำรองที่ถูกส่งลงมาแล้วช่วยแก้ไขสถานการณ์ของทีมให้ดีขึ้นได้ทันที หรือมีส่วนช่วยให้ทีมพลิกเอาชนะคู่แข่งได้ในที่สุด
ในเกมส์การลงทุน หลายครั้งที่พอร์ตเราตื้อ ๆ ขาดทุนอยู่ตลอด แต่เราก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรกับหุ้นที่มี ปล่อยให้ติดลบ ขาดทุนอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ คือถ้าเปรียบเทียบกับฟุตบอล คือ ไม่ยอมเปลี่ยนตัวแก้เกมส์ซักที ปล่อยให้คู่แข่งดาหน้าเข้ามายิงประตูเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สาเหตุหลักที่พบเจอมาจากเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมที่เรียกันว่า “Loss Aversion” ซึ่งเป็นหลักการที่บอกว่า ขาดทุนเจ็บหนักกว่ากำไรเป็น 2 เท่า หรือ เราจะเสียใจตอนที่เป็นทุกข์มากกว่าตอนที่มีความสุขเสมอ เช่น ถูกล็อตเตอรี่ได้เงินมา 5,000 บาท วันต่อมาทำกระเป๋าสตางค์หายในนั้นมีเงิน 5,000 บาทเท่ากัน ถ้าตามหลักเหตุและผลคำนวณเป็นตัวเลข เราควรจะรู้สีกเฉย ๆ แต่ในความเป็นจริงเรากับเสียใจมากกว่า
ในการลงทุนก็ไม่ต่างกัน เวลาที่เรากำไรจากการขายหุ้น 10,000 บาท กับเวลาที่เราขาดทุนจากหุ้น 10,000 บาท เรากลับรู้สีกปวดใจและจำไม่ลืมกับหุ้นที่เราขาดทุนมากกว่าทั้ง ๆ ที่มูลค่ามันเท่ากัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกว่าทำไมเราถึงไม่กล้าขายหุ้นตัวแดงที่มีอยู่ในพอร์ตของเรา ไม่ใช่เพราะเราหวังว่ามันจะเด้ง แต่เพราะเรากลัวเสียใจมากกว่าที่จะเปลี่ยนจาก Unrealized Loss มาเป็น Realized Loss ในชีวิตจริง
วิธีแก้คือ ต้องหาหุ้นตัวใหม่เข้ามาทดแทนและต้องดีกว่าเดิม (เหมือนอกหักต้องมีรักใหม่เข้ามาแทนถึงจะลืมเธอได้) ผมเรียกวิธีการแบบนี้ว่า เปลี่ยนตัวสำรองที่เป็น Super Sub ลงสนาม แล้วลักษณะแบบไหนที่หุ้นตัวใหม่จะสามารถเข้าไปแล้วยิงทำประตูได้เลย มาดูกันครับ
1.พื้นฐานดี
คือในพอร์ตเราอาจจะมีหุ้นที่หนี้เยอะ กำไรน้อย สภาพคล่องติดลบ พวกนี้ควรเปลี่ยนตัวออกทันที แล้วหาหุ้นที่พื้นฐานมั่นคงที่เลี้ยงบอลได้คล่อง แรงขายังดี รายได้เติบโต ทำกำไรสม่ำเสมอ หนี้น้อย สภาพคล่องเป็นบวกลงไปแทน
2.สตอรี่มา
เพราะเราต้องการแก้เกมส์อย่างฉับพลันทันที เราเลยต้องเฟ้นหาหุ้นที่กำลังจะมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้น เช่น กำลังขยายโรงงานใกล้เสร็จ โรงพยาบาลตึกใหม่รายได้จะทันค่าเสื่อม ลูกค้าใหม่กำลังจะออเดอร์สินค้า ทำให้เราเห็นภาพค่อนข้างชัดว่ากำลังจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น เราจึงรีบเข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้น (สังเกตว่าผมพูดคำว่า “กำลัง” นะครับ เพราะถ้ามันเกิดขึ้นแล้วแบบชัดเจน แปลว่าใคร ๆ ก็เห็น แปลว่ามันสายไปแล้ว)
3.กำไรกำลังจะระเบิด
ต้องเป็นหุ้นที่เราเห็นภาพชัดว่าอีกไม่นาน กำไรจะมาแบบ surprise ตลาดมาก ๆเป็นหุ้นที่ไม่มีคนคาดคิดว่าจะกำไรเติบโตเยอะแบบนี้ เช่น ปีที่แล้วขาดทุน แต่งบที่กำลังจะออกกำไรโตดีมาก ก็จะทำให้ราคาขึ้นได้เร็วและแรง เราต้องพยายามหาหุ้นแบบนี้ให้เจอแล้วลงทุนให้ถูกจังหวะ
อย่าปล่อยให้พอร์ตพังหรือโดนยิงประตูจนขาดทุนมากไปกว่านี้ครับ ถ้าเห็นท่าไม่ดี รีบเปลี่ยนตัวหา Super Sub ลงสนาม ยิ่งเปลี่ยนตัวเร็วยิ่งแก้สถานการณ์ได้เร็ว แต่ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าตัวสำรองที่ลงไปถูกตัว ไม่งั้นอาจโดนยิงเพิ่ม เจ็บหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว