ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (4-7มิ.ย.62) ยังเผชิญภาวะกดดันจากสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงในตลาดโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าที่เปิดฉากอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยสหรัฐเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่ส่งมาถึงท่าเรือต่าง ๆ ของสหรัฐในอัตรา 25% เช่นเดียวกับจีนที่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 25% เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน สหรัฐขยายวงสงครามการค้ากับประเทศอื่น ๆ ด้วย โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาระบุว่าจะยุติการให้สิทธิพิเศษการค้ากับอินเดียในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ และอินเดียมีแนวโน้มจะตอบโต้กลับเช่นเดียวกัน รวมทั้งประกาศจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% มีผลวันที่ 10 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ สงครามการค้าที่บานปลาย ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 354.84 จุด หรือ 1.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 36.8 จุด หรือ 1.32% และดัชนีแนสแด็ก ติดลบ 114.57 จุด หรือ 1.51% โดยนักลงทุนมีความกังวลว่าสงครามการค้าที่บานปลายจะทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดตลาดวันที่ 3 มิ.ย.2562 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ลดลง 8.62 จุด หรือ -0.30% ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ระดับ 6.8896 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 190.31 จุด หรือ -0.92% โดยตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 เนื่องจากความตึงเครียดของสงครามการค้า ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2562 ดัชนีอยู่ที่ 1,620.22 จุด ลดลง 0.08% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 57,812.07 ล้านบาท ต้องจับตาประเด็นค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐตามภูมิภาค ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า ซึ่งจะกดดันผู้ส่งออกไทยให้ได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 2/92 คาดจะขยายตัวมากกว่า 2.8% แต่มีมุมมองเชิงลบต่อการส่งออกที่ 4 เดือนแรก ติดลบ 1.9% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยว 4 เดือนแรก เติบโตชะลอตัวลงเหลือ +2.11% แต่นักท่องเที่ยวจีน ติดลบ 3.42% เป็นปัจจัยกดดดันการเติบโต กระทรวงการคลังมีแนวโน้มปรับประมาณการจีดีพีลงต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาอีกครั้งในเดือนก.ค. ขณะที่การเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับประมาณการ
สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์นี้ 4-7 มิ.ย.62 ตลาดมีโอกาสปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับสำหรับสัปดาห์นี้ มีโอกาสเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,600 และ 1,580 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเมืองในประเทศ สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้า สถานการณ์ BREXIT รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขเงินเฟ้อสัปดาห์นี้