"โลกนี้ไม่ยุติธรรม อย่าคาดหวังจากมัน..."
เป็นที่ถกเถียงกันมานานถึงความ "ไม่เท่าเทียม" กันในสังคม โดยเฉพาะเรื่องเงิน มีการวิจัยเป็นจำนวนมากถึงสาเหตุว่าทำไมคนรวยถึงรวยขึ้น แล้วทำไมคนจนถึงยิ่งคนจน
แน่นอนว่า "ความเหลื่อมล้ำ" จะยิ่งมีมากขึ้นในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย
จากบทความเรื่อง Why the rich do get richer. ของ CNBC มีความเห็นว่าคนรวยจะยิ่งรวยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่คนจนจะยิ่งจนลงไปเรื่อย ส่วนคนชั้นกลางจะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะขยับฐานะไปเป็นคนรวย ในขณะที่ส่วนใหญ่จะยังคงวนเวียนอยู่กับการ "ผ่อนบ้าน" และ "เงินฝาก"
ศาสตร์จารย์นักเศรษฐศาสตร์เอ็ดเวิล์ด วอฟฟ์ ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ให้ความเห็นว่า ความไม่เท่าเทียมทางชนชั้นสังคมจะยิ่ง "ห่าง" และ "ถ่าง" ออกไปเรื่อยๆ ซึ่งประกอบไปด้วย 2 เหตุผลด้วยกัน มีอะไรบ้างเรามาดูกันครับ
เหตุผลที่ 1 : คนรวยใช้เงินประมาณ 3 ใน 4 วางลงไปในทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่คนชนชั้นกลางกว่า 63% ใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการผ่อนบ้านเพราะเชื่อว่าเป็นทรัพย์สิน ซึ่งความเชื่อนั้นมาพร้อมกับ "หนี้" ก้อนใหญ่
ศาสตร์จารย์เอ็ดเวิล์ด วอฟฟ์ ยังกล่าวอีกว่าคนรวยจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.91% ต่อ่ปี และส่วนใหญ่พวกเขาลงทุนในหุ้นเป็นหลัก ...
"นี้เป็นความแตกต่างระหว่างคนรวย กับคนชนชั้นกลาง ... คนรวยสร้างเงินจากการลงทุน ในขณะที่คนชนชั้นกลางเสียเงินไปกับค่าผ่อนบ้าน"
เหตุผลที่ 2 : คนรวยยอมรับความเสี่ยงเพิ่มเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลมากกว่า ในขณะที่คนชนชั้นกลางกลัวการเสียเงิน ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ จึงต้องลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินฝากออมทรัพย์ ตราสารหนี้ กองทุน bond เป็นต้น
นี้ก็เป็น 2 เหตุผลที่ว่าทำไมคนรวยถึงรวยมากขึ้น และความเหลื่อมล้ำนี้จะมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ ...