#แนวคิดด้านการลงทุน

“จุดขาย” แบบไหนดีที่สุด?

โดย ชานน รุ่งเรืองไพฑูรย์
เผยแพร่:
376 views

ปัญหาในการเทรดสําหรับคนทั่วๆ ไปไม่ใช่ปัญหาในการหาจุดซื้อนะครับ ผมสังเกตเห็นแทบจะทุกคนหาจุดซื้อได้ค่อนข้าง Perfect เรียกได้ว่าหลายครั้งหาเก่งกว่าผมเยอะแยะเลย แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ “จุดขาย”

เพราะจุดขายคือจุดที่รวมความโลภและความกลัวไว้มากที่สุดนั่นเอง!

ในบริเวณของการขายทุกครั้งในตลาดทุน จะประกอบไปด้วย 2 ทางหลักๆ ก็คือ “ขายขาดทุน” กับ “ขายแล้วได้กําไร” แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะคนส่วนใหญ่กลัวขายขาดทุนแล้วมันดันเด้งกลับ อีกส่วนก็คือกลัวขายกําไรแล้วขายหมู! (จริงหรือไม่ลองสังเกตตัวเองดูละกัน หุหุ ผมก็เป็น อย่าได้อายครับ)

มีสองคําในโลกของการเทรดหุ้น คือ คําว่า Cut Loss กับ Stop Loss สองคํานี้โดยการกระทําจะคล้ายๆ กัน แต่มันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ Stop Loss คือการตัดการขาดทุน เพราะเราวางระเบียบไว้แบบนั้นแล้ว ส่วน Cut Loss คือการต้องยอมตัดขาดทุน เพราะมันจําเป็นแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีใคร อยาก Cut Loss แน่นอน

คําถามก็คือ แล้ว Stop Loss แบบไหนล่ะถึงดีที่สุด?

set stoploss หุ้น

คําตอบก็คือเราสามารถแบ่ง Stop Loss ได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1. Trailing Stop

2. Technical Stop

จริงๆ แล้วในสองหมวดย่อยนี้ยังถูกแบ่งออกมาได้อีกเป็นหัวข้อ แต่ผมจะขอเล่ารวมๆ เลยก็แล้วกันนะจ๊ะ ไม่งั้นจะยาวเกินไป

Trailing Stop มี 2 แบบหลักๆ คือการ Run Stop ให้ไปตาม Indicator ต่างๆ บนชาร์ต เช่น EMA, SMA, Bolinger Band (ยังมีอีกเยอะ แล้วแต่จริตคนใช้เลยครับ) แต่ Trailing Stop ที่ไม่เวิร์คเลยสําหรับผมก็คือ การ Run Stop ที่เป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น “หากฉันขาดทุนไปมากกว่านี้อีก 20 เปอร์เซ็นต์ ฉันจะตัด!” (ตัดการขาดทุนนะครับ ไม่ได้ตัดอย่างอื่น ฮ่าๆ)

แล้วทําไมถึงไม่เวิร์คล่ะ? ต้องบอกก่อนเลยว่าการ Stop Loss ลักษณะนี้เป็น Stop แบบที่คนทั่วไปใช้กันมากที่สุด และจะเข้าใจว่ามีแค่แบบนี้แบบเดียวนั้นแหละ ปัญหาก็คือ หากสัญญาณการขายยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพียงแค่การขาดทุนของเรามันลงไปต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ที่วางไว้ เรา ก็ต้องเคลียร์ของทิ้ง ส่วนมากคนที่จะต้องตัดการขาดทุนจาก Stop Loss ลักษณะนี้คือคนที่ได้ของมาราคาค่อนข้างแพง และรับไม่ได้เวลาการขาดทุน มันลึกลงไปมาก

ไอ้ที่มันไม่เวิร์คก็เพราะ Stop Loss ตัวอื่นมันดีกว่านะสิ! เพราะตลาดทุนเป็นตลาดที่มี Liquidity สูง ฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากที่ราคาของเราจะโดนสะบัดออกไปตามกฎเกณฑ์ที่เราวางไว้ได้ง่ายมาก หากไม่อยู่ในจุดที่เหมาะสม

ส่วน Technical Stop ผมบอกได้เลยว่าเป็น Stop Loss แบบที่ผมชอบมากที่สุด เพราะอิงกับ Dow Theory ถ้าโดน Stop Loss แล้วตลาดหรือสินค้ามีโอกาสกลับทิศสูงมาก แต่ปัญหาก็คือ มันลึกจนคนส่วนมากทนไม่ค่อยไหว

เรื่องของการตัดการขาดทุน มันบอกไม่ได้เลยว่าจุดไหนดีที่สุด เพราะแล้วแต่นิสัยคนใช้ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรใส่ใจก็คือการเทรดของเรา ต้องไม่ Over Trade นั่นแปลว่าอย่าตัดขาดทุนเพราะว่าต้องโดน Call เพราะ นั้นถือว่าเป็นการเทรดเกินตัวแล้ว

เวลาหน้ามืดตามัว การวางแผนในการเทรดมักจะไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่สําคัญที่สุดในการเทรด

หากคุณเคยได้ยินมาบ้างว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองก็เคยพูดว่าไว้ กฏของการลงทุนมีอยู่ 2 ข้อ

กฎข้อแรก “จงอย่าขาดทุน”

กฏข้อสอง “จงอย่าลืมกฏข้อแรก”


นักลงทุนยังบลัดไฟแรง ที่อายุยังน้อยแต่ชั่วโมงบินสูง เพราะตกหลุมรักตลาดหุ้นตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ผ่านการเทรดทั้งในตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์มาแล้ว และชื่นชอบจิตวิทยาการลงทุนและศาสตร์แห่งเทคนิคคอลเป็นอย่างมาก และยังแบ่งปันประสบการณ์ให้กับนักลงทุนรายย่อยผ่านผลงานหนังสือ Best Seller "เทรดเดอร์ 3 ขา" พร้อมกับคอนเซ็ปต์ส่วนตัวเท่ห์ๆ ในชื่อ “Inspiration Investor”

 

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง